“พี่ครับ/พี่คะ คือว่าหนูอยากซื้อหมึกสำหรับปากกาลามี่อ่ะค่ะ แต่หมึกของลามี่ที่มีขายสีก็ไม่สวยถูกใจเท่าไหร่ พี่พอจะแนะนำร้านที่ซื้อได้ง่ายๆ ในไทยได้ไหมครับ/คะ?”

นี่เป็นคำถามที่ผมมักจะได้รับผ่านทางเพจเฟสบุคของบีบีบ่อยมากๆๆๆๆๆ และผมก็ตอบแบบเดิมซ้ำๆ ทุกครั้งๆ จนตอนนี้แทบจะ copy/paste ไปแล้ว ซึ่งคำตอบนั้นก็คือ

“ไม่มีอ่ะครับต้องสั่งจากนอกเอานะ แต่เคยเห็นแว็บๆ ที่ห้าง xxxxxx ราคาก็ 1,300 – 1,500 ครับ แพงเนาะ”

มันเป็นความจริงอันน่าเจ็บปวดมากครับสำหรับสาวกผู้ที่หลงรักปากกาหมึกซึมอย่างเราๆ “หาซื้อหมึกไม่ได้เลยเว้ย!” ซึ่งทางออกที่จะช่วยได้ก็คือสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว ซึ่งไอการสั่งจากต่างประเทศนั้นมันก็ดีนะตรงที่ได้หมึกปากกามาในราคาที่สมเหตุสมผล สบายกระเป๋าขึ้นมาหน่อย แต่มันจะเริ่มไม่ดีก็ตรงค่าส่งพัสดุมหาแพงนี่แหละ สั่งแค่ขวดเดียวค่าส่งก็ราคาแพงกว่าหมึกด้วยซ้ำ แต่ถ้าสั่งมาหลายๆ ขวดคุ้มค่าส่งก็เสี่ยงที่ของจะหายจะแตกยกแผง แถมอาจจะโดนประเมินภาษีแบบสูงกว่าที่ควรจะเป็นด้วย! พี่ช้ำ!

มันคงจะดีใช่มั้ยครับถ้าหากว่าเราสามารถซื้อหมึกสีสวยๆ เพื่อหลีกหนีจากความซ้ำซากจำเจได้จากร้านค้าในประเทศและที่สำคัญคือ “ราคาต้องสมเหตุสมผล” และในที่สุดพวกเราสาวกปากกาหมึกซึมก็ได้เฮแล้วเว้ย!!

The PIPS Café [มีเพจเฟสบุคด้วยนะ] คือชื่อของร้านขายหมึกปากกาหมึกซึมของคนไทยที่ผมพูดถึงครับ โดยคุณเอ็มเจ้าของร้านนั้นมีคอนเซ็ปในการนำหมึกมาขายว่า

“การซื้อหมึกแต่ละครั้งหากซื้อหมึกเป็นขวดมาก็มักจะได้แต่ขวดใหญ่ๆ ใช้ยังไงก็ไม่หมด ทำให้ซื้อได้ทีละไม่กี่ขวด ครั้นอยากจะลองหลายๆ สี ก็จะเป็นการซื้อที่มากมายเกินไป ดังนั้นจึงอยากให้คนเล่นหมึกปากกาได้ลองหมึกหลากหลายสีในราคาที่สบายกระเป๋า สามารถซื้อได้หลายสีตามต้องการ”

ดังนั้นหากลองเข้าไปในเว็บไซต์ร้านออนไลน์ของทางร้าน https://thepipscafe.bentoweb.com/ ก็จะพบกับหมึกยี่ห้อ Diamine ที่ผมเคยรีวิวไปเมื่อชาติปางก่อนอยู่หลากสีเยอะแยะไปหมดครับ และถ้าคุณผู้อ่านลองเล็งให้ดีๆ จะเห็นว่าขวดหมึกนั้นเป็นคนละแบบกับที่ผมเคยรีวิวไป เพราะว่านี่เป็นขวดขนาดเล็ก!! ใช่ครับ! ขวดหมึกในร้านแห่งนี้จะเป็นขนาด 30ml บรรจุอยู่ในขวดพลาสติกไม่แตกแน่ๆ (ถ้าไปรษณีย์ไทยไม่กระทืบเล่น) ซึ่งแน่นอนว่าเป็นปริมาณกำลังพอเหมาะไม่เยอะมากมายท่วมทุ่งข้าวสาลีจนเกินไป

ขวดเล็กแล้วราคาล่ะเท่าไหร่? หมึก Diamine 30ml นี้มีราคา 180 บาทถ้วนครับซึ่งราคานี้ผมว่าไม่แพงเลย ลองบวกลบคูณหารแล้วก็จะตกที่ 1 ml ละ 6 บาทเท่านั้นเอง!! ลองคิดเล่นๆ ก็คือหมึกหลอดแบบรีฟิลของลามี่ กล่องนึงก็ 100 บาทและมีแค่ 5 หลอด ปริมาณหมึกหลอดละ 1.5 ml …เป็นไงครับเริ่มคุ้มหรือยัง? แล้วเรื่องค่าส่งล่ะเว็บนี้เค้าคิดราคายังไง? เว็บนี้เค้าเข้าใจง่ายครับเหมาะกับคนขี้เกียจคิดเลขอย่างผม จะสั่งกี่ขวดก็ช่างคิดราคาเดียว 50 บาท …แต่ถ้าสั่งเป็นลังก็ไปเคลียร์กันเองนะ กร๊าากก

บล็อกตอนนี้ผมคงจะไม่รีวิวหมึกแบบลงลึกนะครับ เพราะหมึกของ Diamine ก็จะมีคุณสมบัติส่วนใหญ่ที่คล้ายๆ กันอยู่แล้ว ดันนั้นสามารถอ่านได้จากบล็อกตอนก่อนตอนนี้ “รีวิวหมึกน้ำเงินสุดเท่ Diamine Indigo สีนี้แหละที่ชายใหญ่ต้องการ!” ได้เลยนะ แต่วันนี้ผมมีตัวอย่างหมึกที่ผมได้รับมา 4 สี เอามาให้ได้ชมกันครับ

หมึกที่ผมได้รับมานั้นก็เป็นหมึก Diamine Hope Pink (ชมพู), Golden Brown (น้ำตาลทอง), Majestic Purple(ม่วง) และ Sargasso Sea(น้ำเงิน) 4 สีซึ่งแตาละสีก็น่าจะถูกอกถูกใจใครหลายๆ คนเลยล่ะ

Hope Pink ผมมองว่าหมึกสีชมพูตัวนี้น่าสนใจและสามารถใช้งานได้จริง ที่ผมพูดแบบนี้นั่นเป็นเพราะว่า หากลองเทียบกับหมึกลามี่ NeonCoral สีชมพูลิมิเต็ดของปีก่อนจะเห็นว่า Hope Pink เป็นสีชมพูที่เข้มชัดกว่าทำให้อ่านได้โดยง่ายนั่นเอง แถมหากมองเอียงๆ หรือแสงต้องกับสีหมึกแล้วละก็ มันจะมีสีเหลือบหรือภาษาฝรั่งเรียกว่า sheen ที่ออกไปทางสีส้มด้วยครับในส่วนที่มีปริมาณหมึกมากนั่นเอง

 

Golden Brown สีน้ำตาลทองตัวนี้ตอนที่ผมได้อ่านชื่อผมก็รู้สึกเนื้อเต้นเลยครับ ผมชอบหมึกสีน้ำตาลอยู่เป็นทุนอยู่แล้ว แต่เมื่อได้ลองใช้หมึกน้ำตาลตัวนี้ผมก็ต้องผิดคาดนิดหน่อย แต่ก็เป็นไปในทางที่ดีนะ เพราะว่าผมคาดหวังว่ามันจะเป็นสีน้ำตาลเข้มแต่มันคือสีน้ำตาลออกไปทางสีทอง(มากหน่อย) ดังนั้นสีขิงหมึกเมื่อเขียนก็จะออกเหลืองน้ำตาลครับ ถ้าหากใช้ nib ขนาดเล็กเช่น EF ก็จะทำให้เห็นเส้นได้ไม่ชัดเจน แต่ถ้าใช้ nib ใหญ่เช่น M ขึ้นไป ก็จะเห็นเส้นที่ชัดขึ้น

อีกเรื่องนึงก็คือเรื่องของสีเหลือบคือในส่วนไหนที่มีปริมาณน้ำหมึกไหลเยอะก็จะทำให้เห็นเส้นเป็นสีน้ำตาลที่เข้มขึ้นครับ เส้นมีสีทองน้ำตาลสวยไปอีกแบบ

 

Majestic Purple ม่วงตัวนี้ผมไม่มีความเห็นมากครับ เพราะดูแล้วจะมีความใกล้เคียงกับสีม่วงของลามี่อยู่พอสมควร แต่ผมรู้สึกว่า “ทำไมมันเป็นสีม่วงที่ดูชัดจัง” จริงนะ! ถึงว่าว่สโทนสีม่วงของหมึกตัวนี้จะใกล้เคียงกับลามี่ แต่ว่าสีนั้นดูสดและเข้มข้นกว่าครับ ..ซึ่งผมชอบมากกว่าลามี่แหละ กร๊าากก

 

Sargasso Sea ผมคนนึงล่ะที่ไม่ชอบใช้หมึกสีน้ำเงินเพราะมันดูหมองหม่น แต่คราวนี้ผมตัองยกให้หมึกตัวนี้เป็นพระเอกของงานเลยครับ ด้วยเพราะโทนสีน้ำเงินของ Sargasso Sea นั้นสดมาก เขียนอักษรแล้วแลดูสวยงามเหมือนตัวหนังสือลอยขึ้นมาเลย แถมยังไม่หมดแค่นั้นนะ ถ้าหากเราลองเอียงกระดาษดู ในส่วนจองเส้นหรือพื้นที่ที่มีน้ำหมึกอยู่ปริมาณมาก ก็จะเห็นว่าหมึกมีสีเหลือบไปทางสีแดงม่วงครับ ยิ่งสวยเท่ยิ่งขึ้นไปอีกด้วย

นี่เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกดีใจอย่างมากครับเพราะว่าอย่างที่พวกเราจะได้ใช้หมึกปากกาหมึกซึมในราคาที่สบายกระเป๋าและหาซื้อได้ง่ายมากๆ จากแต่ก่อนที่ต้องคอยสั่งจากนอก ขวดก็หนักส่งก็แพง แถมมีแตกมีหายมีบวกภาษีเว่อร์ๆ อีก ถึงแม่ว่าอาจจะไม่ใช่หมึกที่เขียนลื่นปรื้ดหรือกันน้ำเทพ waterproof แต่ถือเป็นอีกหนึ่งหมึกคุณภาพที่มีหลากสีให้เลือกใช้ได้อย่างสนุกมือ แต่ที่ทำให้ชอบมากขึ้นไปอีกก็คือขวดเล็กๆ ราคาเบาๆ ทำให้สามารถซื้อมาลองได้หลายสีไม่รู้สึกผิดบาปมากมาย ดังนั้นใครที่เป็นแฟนปากกาหมึกซึมแล้วละก็ นี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้หลองหมึกหลากสีแล้วล่ะครับ!

 

ขอขอบคุณคุณเอ็มแห่งร้าน The PIPS Café ที่ทำให้ชีวิตผมมีสีสัน…หมายถึงมีหมึกเยอะขึ้นนะ! ขอบคุณครับ!

แปะอีกทีเผื่อหาลิ้งค์ไม่เจอ
ร้าน: https://thepipscafe.bentoweb.com/
เพจ: https://facebook.com/thepipscafe