ปากกาลูกลื่นสุดล้ำค่าแห่งสวิสเซอร์แลนด์! Caran d’Ache 849 Original และ Brut Rosé (Special Edition)

in Pen by hackhq on 12 Feb 2016

ผมไม่เคยคิดเลยครับว่าวันนึงผมจะเกิดความต้องการอยากได้อยากมีปากกาลูกลื่นหรือเรียกเท่ๆ ว่า ballpoint pen ก็อย่างที่รู้ๆ กันว่าผมนั้นเป็นพวกเสพติดปากกาหมึกซึม fountain pen มากๆๆ ที่ชอบก็เพราะเส้นมันสวย มีน้ำหนัก เติมหมึกอะไรแบบไหนก็ได้ แถมเอามาสเก็ตช์ภาพด้วยหมึกกันน้ำก็ยิ่งดีงาม ผมเลยหลงรักปากกาหมึกซึมจนไม่คิดจะมองปากกาแบบอื่นมาใช้อีกเลย

แต่จำได้ไหมครับเมื่อครั้งก่อนนู้นนนนน ที่ผมได้ทีโอกาสสนิทชิดเชื้อเข้ากับดินสอด้ามนึงเข้า ดินสอด้ามที่ว่านี้เป็นดินสอกดแบบ lead holder ครับ ซึ่งเจ้าด้ามนั้นยิ่งมีความพิเศษก็คือ “เป็นรุ่นเฉลิมฉลองครอบรอบ 100 ปี” ผมเลยอดไม่ได้ที่จะต้องหามารีวิวให้ได้ชม…ซึ่งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ผิดมหันต์

ที่ผิดมหันต์นั่นก็เป็นเพราะ “ผมดันหลงไอดินสอนี่เข้าเต็มเปา” บางคนอาจจะพอเดาออกแล้วสินะว่าผมหมายถึงดินสออะไร ใช่ครับมันคือดินสอ Caran d’Ache Fixpencil 100th Anniversary Limited Edition ที่ฮิตถล่มทลายกันทั่วบ้านทั่วเมือง ก็หน้าตามันสวยอ่ะ ก้นแดงเชียว แถมเป็น limited edition จำนวนจำกัดด้วย!(เกลียดคำนี้) นั่นจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของการหลงใหลในหน้าตาของดินสอ Caran d’Ache fixpencil ของผมครับ แต่ทีนี้ก็คือว่าผมอยากได้ปากกาไง แต่ว่าหน้าตาและรูปร่างจะต้องเหมือนกับเจ้าดินสอ lead holder รุ่น fixpencil ด้วยนะ! นั่นจึงเป็นที่มาของการเสียทรัพย์อย่างต่อเนื่องในครั้งนี้!

Caran d'Ache 849-01

Caran d’Ache 849 Original & 849 Brut Rosé (Special Edition)

Caran d’Ache 849 Original & 849 Brut Rosé (Special Edition) นี่แหละครับคือปากกาลูกลื่นด้ามแรกที่ผมเต็มใจและยอมพลีกายซื้อมาเพื่อให้ได้ลูบไล้สักครั้งนึงในชีวิต มันเป็นปากกาลูกลื่นที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับพวกดินสอ lead holder รุ่น fixpencil ที่เลื่องชื่อของ Caran d’Ache 849 เลย แตกต่างกันแค่เพียงแค่เป็นปากกาลูกลื่น ไม่ใช่ดินสอกด(เอ้า!) โดยรุ่นที่ผมนำมาให้ชมกันในวันนี้มีด้วยกัน 2 รุ่น 2 ด้ามครับ ด้ามแรกเป็นปากกาสุดเท่ที่มีชื่อว่า 849 Original ส่วนอีกด้ามเป็นปากกาสีทองอมชมพูสุดหรูหราดูแพงที่ชื่ว่า 849 Brut Rosé (Special Edition)

Caran d'Ache 849-02

ปากกาทั้งสองด้ามจะถูกบรรจุมาในกล่องใส่ปากกาที่หน้าตาเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เป็นกล่องเหล็กที่ยึดฝาทั้งสองด้านไว้ด้วยแม่เหล็ก ตัวกล่องโดยรอบนั้นบางเชียวครับแต่ตรงกลางกล่องนั้นจะนูนๆ ขึ้นมาเป็นรูปปากกา ซึ่งเมื่อเปิดออกมาเราก็จะพบกับด้านในกล่องที่บุผ้ากำมะหยี่สีดำดูหรูหราสุดๆ และที่ป่องกลางกล่องนั้นก็จะมีปากกา Caran d’Ache 849 นอนแอ้งแม้งอยู่ในนั้นลงล็อคพอดีเป๊ะ บนผ้าสักหลาดยังทำเท่ด้วยการพิมพ์ข้อความและใช้สีตัวอักษรที่ต่างกันในแต่ละด้ามด้วย เดี๋ยวเราไปดูว่าแต่ละด้ามทั้งในกล่องและหน้าตาปากกาจะเป็นยังไงนะ

บอกไว้หน่อย : รูปถ่ายในครั้งนี้มือผมค่อนข้างแห้งหน่อยนะครับต้องขออภัยด้วย คือเพิ่งกลับจากสวิตช์…อ่านไม่ผิดครับไม่ใช่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ แต่เป็นสวิตช์ไฟหน้าห้องน้ำนี่แหละ คือยังไม่ได้ทาครีมมือไง ไปอึแล้วล้างมือมาถ่ายรูปรีวิวเลย

Caran d’Ache 849 : Original : [ดูมั้ย?]

Caran d'Ache 849-03Caran d'Ache 849-04Caran d'Ache 849-05Caran d'Ache 849-06Caran d'Ache 849-07Caran d'Ache 849-08

ด้ามนี้ดูจากบนเว็บผมมองเดาไม่ออกเลยครับว่าจะหน้าตาเป็นยังไง คือบนเว็บนั้นจะออกเทาๆ สว่างๆ และดูเหมือนผิวขรุขระแต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลยอ่ะ ตัวด้ามปากกาทำจากอลูมิเนียมที่แข็งแรงแต่น้ำหนักเบา ทำสีด้วยวิธีการ “พ่นสีฝุ่น” หรือ electrostatic powder coating ให้เป็นสีเทาเหมือนโลหะที่เป็นลายเม็ดๆๆๆ ถ้าคิดภาพไม่ออกให้นึกถึง “ครกหิน” ในห้องครัวบ้านเรานี่แหละ เราจะเห็นว่าครกหินนั้นจะมีลายที่คล้ายๆ กับปากกาด้ามนี้เลย(ปากกาครกสินะ) แต่ว่าลายของ Caran d’Ache 849 : Original นั้นจะเล็กและถี่กว่า ไม่ว่าจะมองไกลๆ หรือใกล้ๆ ก็สวยงามไม่เหมือนใครเลยจริงๆ และจากความที่เป็นปากกาแบบ 6 เหลี่ยม ในส่วนของเหลี่ยมมุมก็มีการทำให้ลายบนปากกานั้นต่างกับด้านแบบปรกติโดยให้มีสีเข้มขึ้นกว่าปรกติ ให้ความรู้สึกเหมือนกับหินหรือโลหะที่ผ่านการใช้งานแล้วมีการถลอกตรงขอบเหลี่ยมมุมนั่นเอง

Caran d'Ache 849-09 Caran d'Ache 849-10Caran d'Ache 849-11

นอกจากนั้นก็คือเรื่องพื้นผิวของปากกาครับ จริงอยู่ที่ว่าเค้าทำมาเป็นลายเหมือนหินแต่ว่าสิ่งที่ทำให้ผมอึ้งก็คือตัวผิวปากกานั้นเรียบลื่นมาก มันเหมือนกับเค้าตั้งใจออกแบบให้เราได้เซอร์ไพรซ์ เห็นปากกาลายๆ เหมือนกับหินคงคิดว่าจะมีเทกซ์เจอร์ที่ขรุขระสินะ แกโดนหลอกแล้ว! หักมุมด้วยผิวแบบลื่นมือไปเลย!

Caran d'Ache 849-13Caran d'Ache 849-12Caran d'Ache 849-14

ความเป็น fixpencil ยังคงมีให้เห็นในทุกๆ ส่วนของ Caran d’Ache 849 นะ ไม่ว่าจะเป็นตัวด้ามแบบ 6 เหลี่ยมที่จับได้ถนัดมือไม่กลิ้งร่วงตกโต๊ะง่าย คลิปหนีบกระเป๋าเสื้อก็มีหน้าตาเหมือนกัน โดยคลิปของด้ามนี้ก็เลือกใช้เป็นสีเทาด้านให้เข้ากับภาพรวมของตัวด้ามครับ ซึ่งสีนี้ก็เป็นสีเดียวกับปุ่มกดปากกาด้านบนด้วยนะ ที่ที่ส่วนของปุ่มกดนี้เองก็ยังมีการสลักคำว่า Caran d’Ache เพิ่มความงามเข้าไปด้วย ช่างใส่ใจรายละเอียดดีจริงๆ


Caran d’Ache 849 : Brut Rosé (Special Edition) : [ดูอีกทีนะ]

Caran d'Ache 849-15Caran d'Ache 849-16 Caran d'Ache 849-17 Caran d'Ache 849-18 Caran d'Ache 849-19

Caran d'Ache 849-20

หรูหราและงดงามดั่งปากกาจากป่าที่เต็มไปด้วยดอกกล้วยไม้…ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นยังไงแต่อ่านแล้วดูดีก็พอ ด้ามนี้เป็นปากกาสีทองอมชมพูครับหรือที่เราเข้าใจกันดีว่ามันคือสี Rose Gold สุดฮิตแห่งยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็น iPhone 6s หรือจะเป็นพวก Apple Watch ก็ใช้สี Rose Gold ชิคๆ สวยๆ กันทั้งนั้น ปากกาด้ามนี้จึงเป็นปากกาสีพิเศษที่ทำออกมาเป็นรุ่น Special Edition ให้ได้สะสมกันครับ
Caran d'Ache 849-21 Caran d'Ache 849-22 Caran d'Ache 849-23 Caran d'Ache 849-24

แน่นอนว่าเป็นสีทองอมชมพูที่ดูแล้วสวยงามหรูหรามากๆ ตัวพื้นผิวนั้นจะเป็นแบบขรุขระเล็กน้อยเหมือนพ่นทรายหยาบๆ ไว้ ไอการที่ด้ามนี้มีเทกเจอร์นี่แหละทำให้มันดูดีมีมูลค่าสูงขึ้น(จริงๆ ราคามันก็ขึ้นเหมือนกันนะ กรั่ก) นอกจากนั้นในส่วนที่เป็นคลิปเหน็บกระเป๋าเสื้อและส่วนที่เป็นปุ่มกดก็ยังมีการทำเป็นสีทองอมชมพูด้วย แต่เปลี่ยนเป็นผิวแบบเงาวับวิ้งวั้ง ช่วยเพิ่มความสวยงามและหรูหราให้กับปากกาขึ้นไปอีก

คลิปเหน็บกระเป๋า
Caran d'Ache 849-27 Caran d'Ache 849-26

นี่เป็นจุดที่ทำให้เรานึกถึงดินสอรุ่น fixpencil ของ Caran d’Ache ครับ ผมจับเอาคลิปของทั้งสองด้ามมาให้ดูกันแบบชัดๆ อีกทีว่าเหมือนกันกับ fixpencil จริงๆ นะ ตัวด้าม Original จะเป็นสีเทาด้าม ส่วนด้ามสีทองอมชมพูจะเงาวับเลย ใครอยากเท่อยากหรูก็เลือกได้ตามใจชอบนะ ผมว่าตัว Brut Rosé นี่สีเข้ากั๊นเข้ากันกับ iPhone 6s Rose Gold จริงๆ (ต้องถอยไอโฟนสินะ)

ไส้

Caran d'Ache 849-28Caran d'Ache 849-29

เมื่อเราหมุนปุ่มกดที่ด้านก้นของปากกาออก เราก็จะสามารถถอดเปลี่ยนไส้ปากกาได้ครับ ไส้ปากกาที่ใช้นั้นแน่นอนว่าต้องเป็นของยี่ห้อ Caran d’Ache เค้าล่ะ โดยชื่อรหัสที่เขียนบนหลอดจะเป็น 8422.000 Medium Blue ขนาดของเส้นก็คือขนาดกลาง Medium ตามชื่อนั่นแหละครับจากทั้งหมดที่มี 3 ขนาดคือ S, M, L ส่วนหมึกที่บรรจุในนั้นเป็นหมึกสีน้ำเงิน ทั้งนี้เจ้าไส้ตัวนี้มันมีชื่อเรียกแบบเท่ๆ ก็คือ Goliath[1] ใช่แล้วครับ! มันเป็นชื่อของยักษ์โกไลแอท ซึ่งที่ใช้ชื่อนี้ก็เพราะว่าทาง Caran d’Ache อยากที่จะสื่อให้ถึงความใหญ่ของไส้ปากกา สามารถเก็บน้ำหมึกได้มากและเขียนได้ยาวนานไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยนั่นเองครับ โดยเค้าโม้ไว้ว่าสามารถเขียนบนกระดาษ A4 ได้ถึง 600 หน้าเลยทีเดียว! ซึ่งโม้มาแบบนี้มีเหรอที่บีบีบล็อกจะไม่พิสูจน์ครับ เดี๋ยวผมจะนั่งเขียน 600 หน้าให้ดูกันครับ บ้าเสียเวลา! เอาเวลาไปเผือกดราม่าดาราจะดีกว่า!!

เขียนจริง

Caran d'Ache 849-31 Caran d'Ache 849-32

เนื่องจากที่เป็นปากกาลูกลื่น เราจึงไม่ต้องมีพิธีการอะไรมากมาย กดแล้วก็เขียนเลยครับ ซึ่งผมต้องขอบอกว่า Caran d’Ache 849 เป็นปากกาที่เขียนได้ลื่นมือมากๆ ด้ามนึงเลยนะ หัวบอลของมันหมุนได้ไม่มีสะดุดเลยครับ ส่วนเส้นของหมึกที่ได้นั้นก็จะออกสีน้ำเงินที่ไม่เข้มมากครับ และก็สามารถเขียนได้ต่อเนื่องไม่มีอาการเส้นขาดเลยนะ แต่มันก็จะมีบางช่วงบางเส้นที่เขียนๆ ไปแล้วหมึกมันจางๆ อันนี้ผมมองว่าเพราะผมเป็นคนเขียนหนังสือค่อนข้างเร็วเลยทำให้บางจุดที่สะบัดมือ หมึกมันก็จะจางๆ ไปบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของปากกาประเภทลูกลื่นที่ใช้หมึกแห้ง หมึกมันเลยไหลได้ไม่ดีเหมือนหมึกซึมครับ

ไปสอยมาจากที่ไหนอ่ะ?

849-all

ปากกาสวยงามทั้งสองด้ามนี้ผมไปเสียทรัพย์มาจากเว็บไซต์ร้านปากกายอดนิยมของชาวไทย fontoplumo.nl ของคุณแฟร้งค์ครับ โดยผมสั่งมาพร้อมกันทีเดียวเลย 2 ด้าม ราคาที่ได้รับการยกเว้นภาษีและได้ใช้ “โปรบีบีบล็อก” เมื่อรวมค่าขนส่งอะไรต่างๆ นานาแล้ว ถ้าหากว่าสั่งทั้ง 2 ด้ามแบบผมเลยก็จะเหลืออยู่ที่ 56.27 euro หรือเท่ากับ 2,245 บาท ซึ่งถ้าตีเป็นเงินไทยแลนด์ก็จะถือว่าตกด้ามละ 1,120 บาทเท่านั้นเอง!

849-original

แต่ถ้าใครอยากจะสั่งเดี่ยวๆ เพราะชั้นจะเอาแค่สีนี้อ่ะ! ก็สามารถสั่งได้ครับ โดยทั้ง 2 ด้ามนี้มีราคาต่างกันอยู่นิดหน่อยนะ ตัว 849 Original นั้นจะถูกกว่าโดยมีราคาเท่ากับรวมทุกอย่างอนู่ที่ 28.82 euro หรือเท่ากับ 1,150 บาท

849-brut-rose

ส่วนด้ามสีทองอมชมพู Brut Rosé นั้นจะตกที่ด้ามละ 31.80 euro หรือ 1,270 บาทเท่านั้น ใครอยากโดนตัวไหนก็โดนกันได้นะ จริงแล้วมันมีสีอื่นๆ ขายด้วยยิ่งเป็นรุ่นที่เป็นสีธรรมดาๆ เช่นขาวหรือชมพูก็จะราคาถูกลงไปอีก ใครอยากเริ่มสะสม(ยุ่งล่ะสิ!) ก็สามารถเลือกซื้อได้จากลิ้งค์นี้นะ : Caran d’Ache Ballpoint Pen

ความเห็นจากบีบีบล็อก

Caran d'Ache 849-25

กรี๊ดสิครับปากกาโคตรสวยงามแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้าม Original ที่มีลายเหมือนหิน(เออ ครกหิน) และก็ด้าม Brut Rosé ที่สวยงามจนอยากให้ Lamy AL-Star ทำสีชิคๆ แบบนี้บ้าง นี่ผมยังนึกเสียดายอยู่เลยที่ไม่มีปากกาหมึกซึมหน้าตาเหมือนกับ Caran d’Ache 849 ทั้งสองด้ามนี้ เรื่องการเขียนและการทำหน้าที่ของปากกาลูกลื่นนั้นสามารถทำได้ยอดเยี่ยมทีเดียว เขียนลื่นเขียนดีไม่มีสะดุด ถึงแม้หมึกจะสีค่อนข้างจางไปหน่อยแต่เดี๋ยวต้องไปลองหมึกสีดำบ้างแล้วล่ะ ส่วนเรื่องคุณภาพในการผลิตนั้นก็เรียกได้ว่าหายห่วงจริงๆ Caran d’Ache นั้นถือว่าขึ้นชื่อเรื่องความเนียบในการผลิตอยู่แล้วครับ รับรองว่าปากกาของเราจะสวยงามหมดจดตั้งแต่ออกจากกล่องแน่นอน

Caran d'Ache 849-30

ใครที่เป็นแฟนของปากกาลูกลื่นและก็อยากได้ปากกาที่หน้าตาสวยงาม งานเนียบ และเท่ไม่เหมือนใคร ขนาดกำลังพอดีมือไม่ใส่ไม่เล็กจนจับถือยาก ลองหาปากกา Caran d’Ache 849 มาใช้ดูนะครับ ก็เลือกกันไปตามสไตล์ที่เราชื่นชอบ ใครอยากได้เท่ๆ ดุๆ ลุยๆ หน่อยก็ขอแนะนำตัว Original ลายแปลกไม่เหมือนใครดูเท่มากมาย ส่วนใครที่อยากได้แบบหรูหรา ทันสมัยและดูได้ไม่เบื่อก็ลองดูตัวทองอมชมพู Brut Rosé (Special Edition) ก็ได้ ผมว่าสาวๆ คงถูกใจกันไม่มากก็น้อยทีเดียวล่ะ แล้วยิ่งเป็นคนที่ใช้พวกสินค้าที่เป็นสี Rose Gold ก็จะยิ่งดูเข้าชุดกันมากขึ้นไปอีก หากคุณผู้อ่านเป็นสาวกปากกาลูกลื่นแล้วล่ะก็ ลองเลือกลองหาปากกา Caran d’Ache 849 Original และ Brut Rosé (Special Edition) มาครอบครองกันนะครับ

หากอ่านแล้วถูกใจชอบใจ ฝากกดแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ \( - 3-)/
โพสตอนนี้อยู่ในหมวด Pen และมี tag ดังนี้ , , , , , , , , โพสเมื่อวันที่ .
hackhq

คนธรรมดาที่หลงใหลในการสเก็ตช์ ใช้ปากกาลามี่เป็นอาวุธ มีสมุด Moleskine เป็นผืนผ้าใบและมีจินตนาการในรูปของสีน้ำ หลงใหลรูป รส กลิ่น ของกาแฟ และเคลิบเคลิ้มกับเสียงของดนตรีแจ๊ส | ติดต่อผมบนทวิตเตอร์ได้ที่ @hackhq

เว็บไซต์ : https://www.bbblogr.com