ฟิ้วววววววว ในที่สุดก็ได้กลับประเทศไทยเสียที ก็เล่นเดินทางไปรอบโลก นี่ก็เพิ่งไปวิ่งวัวกระทิงที่อิตาลี(ผมเกลียดอิตาลี!!) ไปตีลูกข่างที่ฮอนดูรัส ไปจับเลียงผาที่เยเมน แล้วล่าสุดนี่เลยเด็ดจริงๆ ไปดูแสงเหนือ แสงใต้ แสงโสมกันเป็นเดือนๆ ที่นอรเวย์ ไอตัวผมนี่ก็บันทึกเรื่องราวลงสมุดนักเดินทาง TRAVELER’S notebook หมดไปตั้งหลายเล่มด้วยนะ ก็แบบ…อ่อม…ปอนด์ก็เหนื่อยบ้างอะไรบ้างนะจากการเดินทาง แต่ก็แบบรวยไงใช้ตังค์แม่ ถึงเหนื่อยแต่สบายกระเป๋าก็โอเคร ฮิ_ฮิ ก็เลยได้ประสบการณ์ที่แสนประทับใจและได้รูปมาอัพโซเชียลเก๋ๆ มากมายเลยทีเดียวเชียว

…และที่สำคัญคือเก่ง Photoshop ขึ้นตั้งเย้อะะะะ ถุ๊ย!!

กลับมาสู่โลกแห่งความจริงกันดีกว่า ในคอลัมน์ใหม่ล่าสุด(ที่จริงก็ไม่ได้ใหม่มาก) “ดาวเหนือ” ซึ่งเป็นคอลัมน์ที่บีบีบล็อกจะเน้นการท่องเที่ยว การเดินทาง และพาไปสำรวจสถานที่ใหม่ๆ ที่อยู่ในโลกของเครื่องเขียน และในวันนี้พี่ปอนด์บีบีบล็อกนักเดินทางผู้ใจดีและแสนจะเรียบร้อย จะขอพาคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านมาปล่อยตัวปล่อยใจ นำพาให้กิเลสในตัวได้พวยพุ่งจนนำไปสู่การเสียตังค์หนักช่วงวันคริสมาสต์และวันปีใหม่กันครับ กร๊าากกกกๆๆๆ

ร้านเครื่องเขียน “ละมุน” สยามสแควร์ซอย 10 (โฉมใหม่) อูววววว แล้วมันใหม่ยังไงว้า?! เอาเป็นผมจะถือว่าหลายๆ คนที่อ่านบีบีบล็อกคงจะเคยได้อ่านบทความพาเที่ยวร้านละมุน “ตะลุยสยาม! เดินเล่นลั้นลาที่ร้านเครื่องเขียน Lamune” เมื่อปีก่อนนู่นที่ยัยปอยเคยเขียนไว้(แต่เดี๋ยวนี้นางกลับเชียงใหม่พร้อมกับเทบีบีบล็อกไปแล้วล่ะ ส่งต้นฉบับสักตอนสิเฟ้ย!) ก็จะได้เห็นกันไปแล้วว่าเมื่อก่อนนั้นร้านละมุนมีบรรยากาศเป็นอย่างไรและมีสินค้าอะไรขายกันบ้างเนาะ

แต่วันนี้! ร้านละมุน! เค้าปรับใหม่! ตั้งอยู่ที่เดิม! แต่เพิ่มเติมคือความแซ่บ! เดี๋ยวๆๆๆ ผมหมายถึงปรับเปลี่ยนใหม่แล้วสวยงามไฉไลกว่าเดิมมากๆๆ และสินค้าที่วางขายในร้านก็มีของใหม่ๆ ทั้งเท่ ทั้งเก๋ และสวยงามเต็มเพียบไปหมด ย้ำอีกครั้งนะ ของใหม่เพียบจริงๆ! แต่ก่อนที่จะไปถึงช่วงชวนเสียตัว ผมอยากจูงมือคุณผู้อ่านก้าวเข้าประตูร้านไปด้วยกันก่อนนะ มาเร็วเร๊ววว

บรรยากาศร้าน การตกแต่ง

ตั้งแต่ตอนที่ผมยืนอยู่หน้าร้าน รวมไปถึงชั่วขณะที่ผมเอื้อมคว้ามือจับของประตูไม้บานใหญ่ ดึงเปิดออกเพื่อก้าวเข้าสู่โลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ(นี่ไปร้านเครื่องเขียนหรือวาร์ปไปดูแสงเหนือ?) และแล้วผมก็ก้าวเท้าเข้ามาในร้านละมุน สยามสแควร์ซอย 10 อีกครั้ง แต่เป็นมุมมองใหม่ที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม โรงจำนำเอ๋ย…เห็นทีพี่จะได้ใช้บริการเจ้าอีกสักครั้ง นี่คือสิ่งแรกที่ผมคิดเมื่อเห็นภายในร้านละมุนโฉมใหม่แห่งนี้เพราะว่า “เครื่องเขียนเยอะมากและมีของเจ๋งๆ แปลกตาเต็มไปหมด” ที่ผมพูดแบบนี้ก็เพราะว่าไม่ว่าผมจะหันซ้ายหันขวา เดินหน้าหรือตีลังกาถอยหลัง ภาพที่เห็นก็จะเต็มไปด้วยเครื่องเขียนหน้าตาพิเศษๆ รวมถึงเครื่องเขียนแนวไลฟ์สไตล์ที่ผมไม่เคยเจอะเจอจากร้านทั่วๆ ไปมาก่อน

เปลี่ยนเยอะเหรอ? ละมุนโฉมใหม่มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาไปจากเดิมพอสมควรครับ มีคอนเซ็ปของร้านที่ดูชัดเจนและมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นมากยิ่งขึ้น หน้าร้านเองก็มีการตกแต่งโดยวางสินค้าในร้านควบคู่ไปกับของตกแต่งเท่ๆ เช่น เครื่องพิมพ์ดีด กล้องถ่ายรูปแบบโบราณ ลูกโลกงี้ ให้ความรู้สึกเท่และคลาสสิคเข้ากับสไตล์ผู้ชายมาดเท่แบบผมจริงๆ เลย (ออ อือ ยอ – อาย ว้ายสะกดไม่เป็น!)

อีกสิ่งหนึ่งที่เมื่อเดินเข้าร้านละมุนโฉมใหม่แล้วแว่บแรกรู้สึกประหลาดใจนั่นก็คือ เอ้ย! ทำไมมีรถขายก๋วยเตี๋ยวด้วยวะ? แถมมาเป็นล้อเลยด้วย! แล้วนั่นมันตู้แช่ผลไม้นี่หว่าแต่ปรับเปลี่ยนมาใส่เครื่องเขียนแทน! รวมถึงชั้นวางของและตู้ใส่หลอดสีก็คุมโทนสีและการออกแบบให้ไปในแนวทางเดียวกันได้ลงตัวมาก โคตรเท่! คือผมเชื่อแน่ว่าเราไม่เคยเจอการตกแต่งร้านเครื่องเขียนแบบนี้ได้ทั่วไปแน่ๆ แต่พอมองเห็นปุ๊บเราก็สามารับรู้ได้ทันทีว่านี่แหล่ะคือการตกแต่งร้านที่ให้กลิ่นของความเป็นไทยที่พวกเราต่างคุ้นเคย

และที่ผมบอกว่าโฉมใหม่นั้นมันไม่ได้หมายความถึงเพียงแค่หน้าตาของร้านที่ปรับเปลี่ยนไปเท่านั้น แต่มันยังรวมไปถึงสินข้าที่ทางร้านเลือกหามานำเสนอให้กับลูกค้าด้วย โดยภายในร้านหากจะให้ผมอธิบายทั้งหมดว่ามีของอะไรขายบ้าง สงสัยจะต้องเขียนกัน 4 ตอนตลอดเดือนมกราคมปีหน้าแน่ๆ ดังนั้นเลยจะขอพาคุณผู้อ่านเดินตามผมมา เดี๋ยวผมจะพาเที่ยวแบ่งเป็นโซนๆ ไปนะ และรับรองว่าของแต่ละอย่าง “มันช่างยั่วยวนให้เสียเงินเสียยิ่งกว่าร้านขายขนมหน้าโรงเรียนเสียอีก” แงงงงงงงงงง

1. โซน TRAVELER’S notebook รถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวและตู้แช่ผลไม้

เพราะพวกเราเป็นนักเดินทางสายเครื่องเขียน! และร้านละมุนก็เปรียบเป็นจุดหมายที่พวกเราต่างต้องไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต! ผมเลยมองว่าโซนนี้มันช่างเหมาะกับนักเดินทางเสียจริงๆ เพราะถือเป็นสถานที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครที่เราต้องมาเช็คอินด้วยการปั้มสแตมป์ลงสมุดกันสักครั้ง แน่นอนว่าด้วยความเท่ของรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยว ตู้ผลไม้ ถ้วยชามตราไก่และตู้ไข่หยอดเหรียญ(โคตรชอบ) มันช่างเหมาะกับคำว่าการเดินทางยิ่งนัก ในโซนนี้สินค้าหลักๆ จึงเป็นอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ TRAVELER’S notebook

สมุดนักเดินทางเหล่านี้จะถูกจัดวางอยู่ในตู้แบบเท่ๆ แล้วโดนแสงไฟส่องกระทบเพิ่มความเท่ ขนาดผมมีอยู่ครบทุกสีแล้วพอเจอการจัดวางแบบนี้แล้วอยากจะซื้อเพิ่มเลยอ่ะให้ตาย ส่วนตรงตู้ขายผลไม้ก็จะมีรีฟิลต่างๆ ของสมุด TRAVELER’S notebook และยังมี TRAVELER’S notebook Mini 10th Anniversary Can Set วางสวยๆ อยู่ข้างในด้วย (ใครยังไม่มีให้รีบซื้อก่อนของหมดนะ)

อีกจุดเด่นในโซนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ชั้นมาแล้วนะ” …ว่าไงนะ? มันก็คือจุดที่ให้เราได้ทำการประทับตราปั้มที่เป็นลายเฉพาะ มีแค่เพียงที่ร้านละมุนเท่านั้น ใครที่เป็นสายปั้มผมว่าแค่ได้มาปั้มลงสมุดของเราก็ฟินไปหลายวันแล้ว

2. โซน Lifestyle Stationery เครื่องเขียนแนวไลฟ์สไตล์

“อีกระดับของคำว่าเครื่องเขียน” ไม่มีอะไรจะอธิบายโซนนี้ได้มากไปกว่าประโยคข้างต้นแล้วล่ะ เพราะว่าในโซนนี้จะประกอบไปด้วยสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นอีกขั้นของเครื่องเขียนซึ่งที่ทำหน้าที่มากกว่าเชิงประโยชน์ใช้สอยแค่เพียงอย่างเดียว เพราะว่านอกจากการใช้ประโยชน์พื้นฐานแล้ว มันยังเป็นเครื่องเขียนที่มีคุณภาพสูง อีกทั้งสินค้าแต่ละชิ้นยังมีการออกแบบที่สวยงาม มีสไตล์ เหมาะกับคุณผู้ที่ชื่นชอบเครื่องเขียนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

สินค้าหลักๆ ในโซนนี้คงหนีไม่พ้นสินค้าจากแบรนด์ MD ไม่ว่าจะเป็นพวกสมุดบันทึก MD Notebook Diary หรือจะเป็นของตกแต่งอย่างปกสมุดหนังแพะหรือสายรัดสมุดที่สามารถเหน็บปากกาได้ สมุดสำหรับนักออกแบบเสื้อผ้าอย่าง Fashionary ก็มีนะ นอกจากนั้นยังมีสินค้ายี่ห้อใหม่ที่ผมเพิ่งเคยได้สัมผัสตัวเป็นๆ ครั้งแรกยกตัวอย่างเช่น PENCO ที่มีทั้งไม้บรรทัด ซองใส่ของ คลิปหนีบ กระดานรองเขียน หรือจะอีกยี่ห้อนึงที่พวกเราต่างเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามกันมานานว่าเป็นดินสอที่เทพที่สุดในสามโลกอย่าง Blackwing ก็ยังมีจำหน่ายในร้านละมุนด้วยนะ

อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “ปากกา” ร้านละมุนโฉมใหม่ก็จัดเต็มเอาใจพวกเราสาวกคนใช้ปากกาจริงๆ เพราะปัจจุบันมีการนำปากกาหมึกซึมและรวมถึงหมึกปากกามาจำหน่ายด้วย และปากกาที่ว่านี้พวกเราก็คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีแล้วก็คือ TWSBI หรืออีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้ากับสไตล์ของนักเดินทางนั่นก็คือ Kaweco และแน่นอนว่าต้องมีปากกาสุดหรูดีไซน์ล้ำอย่าง Ajoto ที่ผมได้เคยรีวิวไปนั่นเอง

จะมีแค่ปากกามันก็จะจืดไปหน่อยจริงมะ? เค้ามีหมึกปากกาหมึกซึมขายด้วยเว้ยยยยย! ก่อนอื่นเลยนะคือผมอยากลองหมึกปากกายี่ห้อนี้มานานมากแล้วววววว แต่ว่าถ้าจะสั่งจากนอกก็ราคาแพงแถมค่าส่งก็สูงพอๆ กับค่าของเลยเหอะ ร้านละมุนก็เลยนำเอาเจ้าหมึกนามว่า Rohrer & Klingner มาให้แฟนๆ ชาวปากกาหมึกซึมได้เสพกันด้วย และถ้าไม่มั่นใจว่าตัวเราจะชอบหมึกสีไหนบ้าง เค้าก็มีพื้นที่ให้ลองเทสหมึกดูด้วย ก็จิ้มก็ทากันให้หนำใจกันไปเลย

3. โซน Art Material อุปกรณ์ศิลปะ

จริงๆ แล้วใครที่รู้จักร้านละมุนตั้งแต่แรกเริ่มคงจะรู้กันว่า หากนึกถึงปากกามาร์กเกอร์ TOUCH จาก Shinhan Art ต้องนึกถึงร้านละมุน แต่ปัจจุบันร้านละมุนมีสินค้าที่เป็นอุปกรณ์ศิลป์จำหน่ายหลายตัวมากๆ มีทั้งกระดาษสำหรับวาดรูป พู่กัน รวมไปถึงพวกสีที่จัดเต็มทั้งสีน้ำ สีน้ำมันและสีอะคริลิค ยกมากันเป็นแผงเรียงตัวชวนให้เราอยากพุ่งตัวใส่แล้วเสียตังค์รัวๆ มาก

โดยยี่ห้อที่มีจำหน่ายในร้านละมุนนั้นก็ได้แก่สีเทพอย่าง Daniel Smith และ Shinhan Art กระดาษและสมุดของ Khadi และ Stillman & Birn และที่ขาดไม่ได้ก็คือพู่กันขนเทพอย่าง Escoda หากอยากได้อุปกรณ์ในการวาดรูปแต่ไม่รู้จะไปหาจากที่ไหนดี มาแอ่วร้านละมุนดูสิ รับรองว่าได้ของครบออกร้านก็สามารถนั่งวาดที่หน้าร้านได้เลย (แต่อย่าไปนั่งหน้าเซเว่นนะ)

4. โซน Cute Stationery เครื่องเขียนมุ้งมิ้งน่ารัก

แอร๊ยยยยยยย! โซนนี้ปอฟ้าขอมาทำหน้าที่เขียนเองเลยค่า อย่างที่พวกเราต่างรู้ดีว่ามิโดริ MIDORI นั้นขึ้นชื่อเรื่องทำเครื่องเขียนน่ารักๆ มุ้งมิ้งๆ หน้าตาและสีสันก็ดูคิ้วท์มาก! ร้านละมุนโฉมใหม่ถึงแม้จะมีความเท่เพิ่มมากขึ้นแต่ก็ยังมีโซนน่ารักคิ้วท์ๆ สไตล์ละมุนเช่นเดิมนะ โดยทั้งโซนนี้จะขนมาเต็มไม่ว่าจะเป็นกระดาษโน้ตของ MIDORI ที่มีลายน่ารักมากมาย ตัวหนีบรูปสัตว์หลากหลายชนิด สายรัดของรูปทรงเก๋ๆ สติ้กเกอร์ตกแต่งสมุดที่มีลวดลายให้เลือกเยอะสุดๆ ขนาดโอจิซังสุดฮายังมีตั้งหลายแผงเลยค่ะ! ใครอยากเพิ่มความน่ารักให้โต๊ะทำงาน หรืออยากได้ของขวัญเล็กๆ น่ารักมอบให้เพื่อนหรือคนรู้จัยยยย ปอฟ้าแนะนำว่าให้ลากเก้าอี้มานั่งที่โซนนี้ได้เลยนะ เพราะรับรองว่าต้องยืนเลือกนานจนเมื่อยเข่าแน่ๆ

…ปอฟ้าไม่ได้แก่นะแต่ปอฟ้าแค่ข้อเข่าเสื่อม #หันมายิ้มอ่อนให้กล้องสอง

5. โซน Papercraft Museum สำหรับสาย DIY

ยังค่ะปอฟ้ายังอยู่ไม่ได้ไปไหน! สำหรับโซนใหม่ล่าสุดอย่าง Papercraft Museum นั้นปอฟ้ากรี๊ดกร๊าาดดมาเป็นพิเศษเลยเพราะปรกติปอฟ้าเป็นคนที่ชอบงานประดิษฐ์ตกแต่ง DIY อยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งพักกระดาษแบบ origami หรือเอากระดาษมาทำพวกซองจดหมาย รวมไปถึงช่วงใกล้วันเทศกาลทั้งวันคริสมาสต์และวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ Happy New Year อากาศหนาวๆ แบบนี้ ปอฟ้าก็เริ่มที่จะหาของขวัญพิเศษๆ เพื่อมอบให้กับคนพิเศษ รวมถึงหนุ่มๆ ในคอลเอลคชั่นของปอฟ้าด้วยค่ะ

ที่ปอฟ้าชอบที่สุดคือที่โซนนี้นั่นก็คือ มีของที่เพิ่มไอเดียให้กับการห่อของขวัญของเรา ไม่ว่าจะเป็นกระดาษห่อของขวัญลวดลายไม่เหมือนใคร เชือกมัดกล่องที่มีหลากสีในเส้นเดียว ป้ายติดหน้ากล่องที่เก๋ไก๋ ให้เราเลือกจับคู่ลายได้ง่ายๆ อันนู่นก็เข้ากัน อันนี้กูดีดี ถือว่าของในโซนนี้ช่วยเพิ่มไอเดียในการตกแต่งห่อของขวัญเพิ่มความสวยงามและสร้างความแตกต่างที่ทำได้ง่ายด้วยตัวเราเองค่ะ

อีกทั้งหากใครที่ชื่นชอบการทำ Scrapbook ปอฟ้าว่าห้ามพลาดเลยอ่ะ เพราะเค้ามีของตกแต่งสมุดหลากหลายแบบมาก นี่ปอฟ้าก็เล็งๆ เจ้าตัวอัลปาก้าอยู่ด้วยนะ อยากจะเอาไปแปะลงบนสมุดเล่มที่กำลังทำอยู่เลยค่ะ คิ้วท์!

…โอเคค่ะหมดเวลาแจม ปอฟ้าไปก่อนน้าา บั๊ย!

ร้านอยู่ไหน? ไปยังไง? แล้วเปิดกี่โมงอ่ะ?

วิธีเดินทางมาร้านละมุน สยามสแควร์ซอย 10 ที่ง่ายสุดๆ ที่ผมอยากแนะนำนั้นก็คือ “วาร์ป” แค่คุณผู้อ่านหลับตาแล้วนึกถึงร้านละมุน คุณก็จะเครื่องย้ายตัวผ่านมิติที่ 8 มายังหน้าร้านแล้วล่ะครับ…

เอ๊?!…คุณผู้อ่านวาร์ปไม่เป็นเหรอ?

ว๊าาายยยยย ไม่ร้องนะไม่ร้องๆ ถ้าไม่ได้เป็นลูกเทพแบบผมก็คงต้องเดินทางแบบปรกติล่ะนะ เพียงเดินทางมาที่สยามสแควร์แล้วมองหาซอย 10 สังเกตง่ายๆ คือปากซอยจะเป็นธนาคารกสิกรไทย(สีเขียว)ใหญ่โตเชียว ก็เดินเข้าซอยไปเลยแต่ระวังรถด้วยนะอย่าไปเดินกลางถนน ร้านละมุนจะอยู่ตรงกันข้ามกับร้านฮ่องกงนู้ดเดิล(สีแดง) และอยู่ติดกับร้านส่งพัสดุ Kerry Express(สีส้ม) นั่นเอง

ส่วนเวลาปิด-เปิดร้านนั้น เค้าเปิดตั้งแต่เที่ยงวันถึง 1 ทุ่มนะ 12.00 – 19.00 โดยเปิดวันอังคารถึงวันเสาร์ (วันอาทิตย์และจันทร์หยุดนะจ๊ะ) ใครไปเคาะประตูตอน 2 ทุ่มระวังพี่รปภมาสะกิดไหล่แล้วบอกว่า “เพ่ๆ เค้าไม่ให้ตั้งขาตั้งนะครับ”

…คือวันก่อนผมไปถ่ายรูปก็เอาขาตั้งกล้องไปถ่ายด้วยไง แล้วก็โดนสะกิดๆ กวนใจเหมือนกับพวกสามีสะกิดภรรยาตอนดึกๆ เลยอ่ะ น่ามคาน!

ความคิดเห็นจากคนรักเครื่องเขียนแห่งบีบีบล็อก

ก่อนหน้านี้ผมก็คิดมาตลอดเลยนะว่าวงการคนรักเครื่องเขียนช่างโชคดีจริงๆ ที่มีร้านเครื่องเขียนใหม่ๆ เปิดขึ้นมากมายในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านแบบออนไลน์หรือออฟไลน์ ร้านที่เน้นขายสินค้าเฉพาะทาง ร้านที่เน้นอุปกรณ์ศิลป์ หรือจะเป็นร้านที่มีเครื่องเขียนหลากหลายประเภทเข้ากับลูกค้าทุกกลุ่ม และแน่นอนว่าที่น่าสนุกที่สุดก็คือร้านที่มีเครื่องเขียนคุณภาพสูงและเครื่องเขียนที่ทั้งเท่ทั้งเก๋ไม่เหมือนใคร ใช่แล้วครับ ร้านที่ผมพูดถึงอยู่นี้ก็คือร้านละมุน

ผมรู้จักร้านละมุนมาก็เกือบจะ 2 ปีกว่าแล้วละมั้งถ้าจำไม่ผิด ร้านละมุนเป็นร้านแรกๆ เลยครับที่ให้โอกาสผมได้ทำลองใช้และรีวิวสินค้าต่างๆ ที่วางจำหน่ายอยู่ในร้าน และที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษนั่นก็เป็นเพราะว่าเครื่องเขียนในร้านละมุนนั้นล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งนั้น ผมเคยคิดเหมือนกันนะว่าทำไมผมถึงไม่เคยเบื่อร้านละมุนเลยแม้ว่าจะมาหลายครั้งแล้วก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็มักจะมีเครื่องเขียนใหม่ๆ ที่น่าสนใจเพิ่มมาอยู่เสมอ …และอดไม่ได้ที่จะซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปด้วย (ล่าสุดก็มีทั้ง PENCO และ Blackwing มาขาย เดชะบุญที่ในกระเป๋าตังค์มีแต่เศษเหรียญเลยรอดมาได้)

นอกจากนั้นคือร้านละมุนโฉมใหม่นี้เป็นร้านที่เท่และมีเอกลักษณ์มาก ในความคิดผมนั้น “ละมุนเป็นร้านเครื่องเขียนสไตล์ใหม่ที่ผมอยากเห็นและอยากให้หลายๆ ร้านเป็น” เพราะนอกจากเรื่องการเป็นร้านขายเครื่องเขียนแล้ว เรายังถือว่าการได้มาร้านละมุนยังถือเป็นการได้ท่องเที่ยวอีกด้วย เหมือนกับว่าถ้าได้มีโอกาสมาสยาม ก็ควรจะลองแวะมาเยี่ยมชม ถือเป็นการได้เสพประสบการณ์ใหม่ๆ ไปในตัว ผมคิดเสมอว่าการที่เราเลือกใช้เครื่องเขียนอะไรสักชิ้นนั้น มันย่อมที่จะบ่งบอกว่าตัวเรานั้นเป็นคนอย่างไรและมีสไตล์การเลือกใช้ของอย่างไร ซึ่งการจะหาเครื่องเขียนเหล่านั้นที่สามารถอธิบายความเป็นตัวเราเองได้ ผมก็สามารถหาได้จากที่ร้านละมุนแห่งนี้นี่แหล่ะ

ผมเชื่อแน่เลยครับว่าสุดสัปดาห์นี้จะต้องมีคุณผู้อ่านหลายๆ ท่านที่ยังคิดไม่ออกว่าจะไปช๊อปปิ้งที่ไหนดี จะไปเดินห้างช๊อปช่วยชาติก็คงจะเบื่อแล้ว หรือหลังจากตระเวนกินมาอิ่มๆ ถ้าอยากเดินย่อยนิดๆ หรือบางคนอาจจะกำลังมองหาของขวัญพิเศษๆ ให้กับเพื่อนหรือคนที่เรารัก ผมอยากเชิญชวนทุกท่านแวะมาที่ร้านละมุน สยามสแควร์ซอย 10 กันดูนะครับ ยิ่งตอนนี้ปรับโฉมใหม่สวยงามน่าแวะมากแถมมีเครื่องเขียนที่น่าสนใจเพียบเลย และที่พิเศษไปกว่านั้นคือช่วงเทศกาลแบบนี้เค้ายังมีบริการรับห่อของขวัญแบบสวยงามอีกด้วย รับรองว่าคนรักเครื่องเขียนทุกๆ ท่านรวมถึงแฟนบีบีบล็อกจะได้รับความสุข ความเพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อเครื่องเขียน และตกหลุมรักร้านละมุนเช่นเดียวกับผมอย่างแน่นอนครับ

ขอขอบพระคุณ

ร้านละมุน สยามสแควร์ ซอย 10 ที่ให้เกียรติผมได้เข้าไปเก็บภาพบรรยากาศและลองเล่นเครื่องเขียนมากมายอยู่เสมอๆ นะครับ ผมสัญญาว่าถ้าปลายเดือนนี้ยังพอมีเงินเหลือเก็บอยู่บ้าง ผมจะไปถล่มร้านละมุนให้ของเกลี้ยงไปเป็นแถบๆ เลยครับ ขอบพระคุณมากครับ!