ซื้อมาถมที่เหอะ! รีวิวปากกาหมึกซึม M&G : Miffy & Possters

in Pen by hackhq on 23 Jan 2013

เงิน 20 บาท สำหรับคุณแล้วสามารถทำอะไรได้บ้างครับ? สำหรับผมแล้วถ้าไม่ซื้อชาเขียว ก็ซื้อมาม่าได้ 4 ห่อ ไม่ก็ปลากระป๋องได้ 1 กระป๋อง (อาหารในหลุมหลบภัยหรือไง?) แต่รู้มั้ยครับว่าเงิน 20 บาท สามารถใช้ซื้อปากกาหมึกซึมที่สามารถเติมหมึกอะไรก็ได้ที่คุณชอบแล้วยังเหลือเงินอีก 2 บาท เอาไปซื้อลูกอมได้ 2 เม็ด ผมรู้ๆ คราวก่อนก็ปากกาด้ามละ 32 บาทไปทีนึงแล้วคุณผู้อ่านก็ช็อคตาค้างไปทีนึงแล้วใช่มั้ยครับ คืนนี้เรามาค้างด้วยกันอีกซักรอบดีกว่าครับ -..-

M&G : Miffy & Possters

ปากกาที่ผมพูดถึงนี้จะเป็นยี่ห้ออื่นไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ M&G ผู้ผลิตปากกาหมึกซึมสุดถูกจากประเทศจีนครับ จากคราวก่อนที่ผมได้รีวิวปากกา M&G Snoopy ไปแล้วและถูกใจเอามากและเชียร์จนออกนอกหน้า จนผู้อ่านหลายๆ คนคงแอบคิดว่าไอหมอนี้คงได้ค่าโฆษณามา 8 แสนบาทแน่ๆ คราวนี้เป็นคิวของปากการุ่นเล็กราคา 18 บาท อ่านไม่ผิดครับ 18 บาท 18 บาท 18 บาท 18 บาท 18..(ผัวะ!! แกเล่นมุกนี้ไปแล้วเฟ้ย!!) ซื้อมาจากร้านเครื่องเขียนสมุดลานนาเจ้าเก่าครับ ปากกาคราวนี้ไม่มีหีบห่ออะไรเลย ไม่มีแม้แต่ซองพลาสติกนะครับ ถ้าหากคุณจะไปลองหามาใช้ให้สังเกตกล่องปากกาสีหวานๆ เสียบปากกาตั้งๆ นั่นแหละครับบรรจุภัณฑ์ของเจ้าปากกาด้ามนี้…ปากกาโหล

 

4 สีหวานน่ารักน่ากินมาก เหมือนไอติมเรนโบว์เลย

 

ลายตัวการ์ตูนก็ต่างกันนะครับ

M&G : Miffy & Possters คือชื่อของมันครับ ปากกาหมึกซึมสีหวานราคา 18 บาท มีด้วยกัน 4 สี ผมซื้อมาหมดทุกสีครับเพราะราคามันถูกมากกกกก แหงหล่ะ! แพงผมไม่ซื้อมาหลายด้ามหรอกคุณก็รู้ ลายบนปากกาเป็นลายหมีน้อยน่ารัก Miffy และเพื่อนรัก Possters ซึ่งมันคงเป็นคาแรคเตอร์อะไรซักอย่างที่บริษัทคิดขึ้นมานี่แหละ คงเพราะไม่อยากเสียค่าลิขสิทธิ์จ้างสนู้ปปี้มาขายเลยทำเองเสียเลย รูปร่างปากกาก็กากสมราคาเลยครับ วัสดุเป็นพลาสติกราคาถูกทั่วๆไปที่ใช่ทำปากกาลูกลื่นแบบขายเป็นโหล หน้าตาก็เหมือนปากกาลูกลื่นทั่วไปเพียงแต่หัวปากกาเป็นหมึกซึมเท่านั้น

มีแค่นี้จริงๆครับ ซองเซิงก็ไม่ให้มา

เปิดปลอกปากกาแล้วหมุนแยกร่างเพื่อพิจารณาเป็นส่วนๆ ก็พบว่าผมไม่สามารถแยกปากกาในส่วนหัวได้เลยครับ ไม่ว่าจะดึงจะแงะหรือดันจากด้านท้ายก็ตาม ครั้งนี้เลยไม่ได้เห็นรางส่งหมึกเลย เสียดาย…แต่ไม่แคร์ (จะทุบให้แตกก็กลัวโดนหาว่าก้าวร้าวซึ่งตัวจริงเป็นคนสุภาพและน่ารักมากกกกกก……)

Hooded Nib ราคาต่ำ...แต่ไม่รู้จะดีหรือเปล่าน้าาาา

นี่ส่วนของ nib ด้านบนครับ ชนาดเล็กกระทัดรัดมาก

ปากกาด้ามนี้เป็นแบบ hooded nib ครับ มันคืออะไร?!! hooded nib หรือแปลตรงตัวก็คือ หัวปากกาแบบมีหมวก คือลักษณะของปากกาหมึกซึมที่มีส่วนของตัวด้ามจับปากกายื่นออกมาปิดบังในส่วนบนของ nib เป็นการออกแบบเพื่อความสวยงามเป็นหลักแต่แฝงประโยชน์ที่น่าสนใจไว้ก็คือ เพื่อป้องกันหรือชะลอการแห้งของหมึกเวลาที่เราเปิดปลอกปากกาทิ้งไว้นานๆ เช่นเหม่อถึงแฟนตอนเขียนจดหมาย หรือตอนคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรในบล็อกตอนนี้ดี… ซึ่งช่วยทำให้เขียนได้นานและต่อเนื่องขึ้น หมึกที่หัวปากกาแห้งช้าลงและประหยัดหมึกเมื่อเทียบกับปริมาณหมึกที่เท่ากันใน nib แบบธรรมดาทั่วไปอย่างที่เราเห็นกันในปากกา Lamy Safari โดย hooded nib นี้มักจะพบในปากกาหมึกซึมรุ่นใหญ่ที่มีราคาค่อนข้างสูง เช่นปากกา Lamy 2000 หรือ Parker 51 เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องมาจากการผลิตที่ยากและซับซ้อนและต้องใช้ความพิถีพิถันกว่าแบบปรกติทำให้ราคาปากกาสูงขึ้นนั่นเอง…แล้วไอปากกานี้เป็น hooded nib ได้ไงฟระ?!!

มันใส่สปริงมาทำไมฟระ?!!

อีกเรื่องนึงที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ ปากกาด้ามนี้ตอนซื้อมาจะไม่มีหมึกแถมมาให้นะครับ ใครที่คิดจะซื้อมาแล้วใช้เลยนี่ผิดถนัดครับ หลอดหมึกที่ให้มาด้วยนั้นเป็นหลอดหมึกแบบสูบครับ คือคุณต้องไปหาหมึกมาใส่เองโดยลักษณะหลอดสูบหมึกก็เหมือนกับคราวก่อนครับ เป็นก้านแปลกๆ ที่ตัองใช้เล็บจิกเพื่อสูบหมึกขึ้นมา แต่คราวนี้ผมมีงงครับ!! ในหลอดสูบหมึกมันดันใส่ “ขดลวดสปริงที่ไม่ยืด” มาให้ด้วย!! ตั้งแต่เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่และถือปากกาลามี่ออกมาก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ! ต้องออกตัวก่อนเลยครับว่าโคตรงงและผมไม่สามารถหาคำตอบมาบอกคุณผู้อ่านได้เลยว่าไอสปริงนั่นมันใส่มาทำไม มันไม่ทำหน้าที่อะไรเลยนอกจากไหลไปไหลมาในหลอกหมึก ไม่ยึดไม่หดไม่ช่วยอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว……..หรือว่ามันจะเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงสุดของวงการปากกาจากประเทศจีนก็เป็นได้!!

ลองเขียนทุกๆมุม กลัวกระดาษขาดชิบเป๋ง

มาถึงเรื่องสำคัญนั้นก็คือการทดสอบการเขียนครับ อยากรู้นักว่าปากกาด้าม 18 บาทจะทำได้ดีเหมือนรุ่นพี่หรือไม่ ผมสูบหมึก Noodler’s Black Bulletproof เต็มหลอดแล้วก็ใส่ปากกา รอซักพักให้หมึกไหลเข้าที่พร้อมออกมาโลดแล่นบนผิวกระดาษขาวอันแสนนุ่มนวล จรดปลายปากกาแล้วบรรจงวาดเส้นแรก ปากกานี้มันกากสุดๆไปเลย! เห้ยทำไมมันห่วยอย่างนี้ฟระ?!! nib แย่มากครับ เส้นเล็กและเขียนไม่ลื่นมือเลยซักนิด กินกระดาษ ลากเส้นแล้วรู้สึกสะดุดอย่างเห็นได้ชัด หากหมุนปากกาผิดมุมนิดเดียวก็จะเขียนไม่ได้หมึกไม่ออกเลย ลองวาดรูปโดยใช้ความรู้สึกเหมือนกับการวาดทุกทีก็กลายเป็นว่าลาก 10 เส้น ไม่ออกซะ 3-4 เส้น เสียเวลามาก! ต้องมาคอยซ้ำเส้นอีกรอบกลายเป็นเส้นไม่สวยเลย ทั้งนี้พอลองเขียนไปซักพักก็เริ่มเข้าใจว่าปัญหามันมาจากการผลิต nib ที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้ปลาย nib ทั้งสองข้างของเส้นส่งหมึกมีความเหลื่อมกันอยู่ ทำให้ถ้าหากคุณหมุนมือผิดองศานิดเดียว nib ในส่วนที่มีหมึกก็จะไม่สัมผัสกับกระดาษเลยเขียนไม่ออกนั่นเอง

รูปนี้ตั้งใจวาดอย่างช้าๆจึงพอใช้ได้ แต่ล้อดันเบี้ยวซะงั้น (อ๋อ นั่นไม่ใช่ปากกาที่กาก แต่เป็นที่ฝีมือต่างหาก)

พยายามวาดให้เป็นรูปอย่างช้าๆ และเขียนให้นิ่งที่สุดจึงปรากฎเป็นรูปอย่างที่เห็นครับ จะว่ามัน “ใช้เขียน” ได้มั้ยมันก็ได้นะครับ แต่คุณต้องจับจุดให้ได้แล้วต้องมีสมาธิมาเพื่อควบคุมการหมุนของปากกาเพื่อให้เขียนได้ตลอดรอดฝั่ง ซึ่งความเห็นผมก็คือ เอาไปโยนทิ้งเหอะครับ อะไรถ้ามันทำให้เราต้องลำบากมากขึ้นที่จะเขียนหรือวาดรูปผมว่าอย่าไปใช้เหอะ หรือไม่ก็ซื้อมาเพื่อเอาหลอดสูบหมึกไปใช้กับด้ามสนู้ปปี้น่าจะเข้าท่ากว่าครับ จึงสรุปได้ว่า hooded nib ไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยในเมื่อมันเขียนได้แย่มาก หล่อไร้ประโยชน์!!

โพสอีกรูปให้เห็นด้ามชัดๆ ซึ่งก็ไม่อีกแล้ว -..-

แถมท้าย!!

ผมทั้งบีบและตัดจนขาดเละเทะไปหมดเลยครับ

ถ้าถอดแบบสวยงามจะได้แบบนี้

ในที่สุดเลือดสัตว์ป่าที่ดุร้ายและก้าวร้าวของผมมันก็ระอุครับ วิ่งไปหยิบคีมออกมาจากในห้องครัวและกรรไกรตัดลวดจากห้องน้ำ จากนั้นก็บีบด้ามจับปากกาให้แตกไปเลย! …ไม่แตกครับ! เพราะส่วนด้ามจับนั้นใช้พลาสติกคนละชนิดกับตัวด้าม ซึ่งด้ามจับมันเป็นพลาสติกแบบเนียวผมก็เลยเปลี่ยนมาใช้กรรไกรตัดลวดตัดแยกร่างแทน ก็ถึงบางอ้อครับ! หัวปากกาด้ามนี้มันยึดไว้ด้วยล็อกที่ค่อนข้างแน่นหนา ซึ่งวิธีแกะที่ถูกต้องนั้นคือดึงส่วนเกลียวออกมาตรงๆ นั้นแหละครับ มันก็จะแยกเป็นสองส่วนเผยให้เห็น nib และ feed ที่อยู่ด้านในครับ …ปากกาพังไปหนึ่งด้ามแต่ก็สะใจชะมัดเลยครัฟ!

feed ดูดีนะแต่รางส่งหมึกแคบเล็กจิ๋วไปหน่อย

nib โคตรกาก บางไร้ประโยชน์ ปลายไม่เท่ากันอีก

สังเกตุดู ink feed ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ เล็กแต่ก็ทำออกมาได้ดี ติอย่างนึงก็คือรางส่งหมึกที่เป็นร่องแคบและเล็กมากๆ ทำให้ ink flow อยู่ในระดับธรรมดาไม่ได้ไหลลื่นแบบที่ควร ทีนี้มาดูในส่วนของ nib ครับ ตามคาดครับทำจากแผ่นเหล็กที่บางและมีขนาดเล็กมาก ประกอบกับมาตรฐานการผลิตที่ต่ำเลยทำให้ปากกาด้ามนี้เขียนได้ไม่ลื่นมือเลย

ก็อย่างนี้แหละครับผมคงคาดหวังมากเกินไป คิดว่าอย่างน้อยน่าจะได้ปากกาที่เขียนพอใช้ในราคาที่ถูกกลับกลายเป็นว่าผิดหวังอย่างจัง แต่ยังไงผมก็แนะนำให้หามาใช้กันดูนะครับ ราคามันถูกมากๆๆ 18 บาทเอง ซื้อมาให้รู้ถึงหลักการทำงานของปาก กาหรืออีกเหตุผลที่เข้าท่าก็คือ ลองเอามาใช้แล้วจะได้รู้สึกผิดหวัง…อย่างน้อยก็ไม่ได้มีผมที่ผิดหวังอยู่เพียงคนเดียว กร๊าาากก

…แล้วอีก 3 ด้ามที่เหลือจะทำยังไงกับมันดีเนี่ย?

 

ปล. ผมขอประกาศกร้าว! บล็อกตอนต่อไปไม่เอาอีกแล้วกับปากกาถูก คราวหน้าผมจะรีวิวเรื่องหมึกต่อเนื่องกันให้คุณอ่านกันจนกระเป๋าตังค์ระเบิดไปเลยครับ

หากอ่านแล้วถูกใจชอบใจ ฝากกดแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ \( - 3-)/
โพสตอนนี้อยู่ในหมวด Pen และมี tag ดังนี้ , , , โพสเมื่อวันที่ .
hackhq

คนธรรมดาที่หลงใหลในการสเก็ตช์ ใช้ปากกาลามี่เป็นอาวุธ มีสมุด Moleskine เป็นผืนผ้าใบและมีจินตนาการในรูปของสีน้ำ หลงใหลรูป รส กลิ่น ของกาแฟ และเคลิบเคลิ้มกับเสียงของดนตรีแจ๊ส | ติดต่อผมบนทวิตเตอร์ได้ที่ @hackhq

เว็บไซต์ : https://www.bbblogr.com