ผมเห็นปากกายิ้มได้!! Pilot Kakuno

in Pen by hackhq on 18 Apr 2014

คุณผู้อ่านหลายท่านคงจะทราบกันดีใช่มั้ยครับว่าผมมักจะมีจิตนาการแปลกๆ เกี่ยวกับปากกา (หรือว่าภาพหลอนกันแน่?) ก็อย่างเช่น Lamy China Limited Edition ผมก็มองเห็นว่าเธอคือสาวน้อยน้องหมวยที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ หรือว่าจะเป็น Lamy Vista ผมก็มองเธอเป็นน้องนางฟ้านุ่งผ้าอาภรณ์น้อยชิ้น ผมไม่บ้านะครับแต่คุณผู้คงไม่เห็นด้วยใช่มั้ย?! หึหึหึ ในที่สุดวันที่ผมจะได้พิสูจน์ว่าผมไม่ได้บ้าก็มาถึงในที่สุด

ผมเดินห้างเข้าร้านเครื่องเขียนตามปรกติ เฝ้าเมียงมองหาละมั่งน้อยในป่าใหญ่ มือกำคันธนูไว้แน่นหมายมั่นว่าจะจับละมั่งให้จงได้ อะไรนะ? ตอนนี้ไม่ใช่ตอนนายพรานหรือ? …ผมเดินเข้าร้านเครื่องเขียนหมายมั่นที่จะหาเครื่องเขียนหรือสีน้ำสวยๆ แปลกๆ มารีวิวให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันครับ แต่ครั้งนี้ก็ไม่ค้นพบอะไรน่าสนใจ ตัดใจจะเดินออกจากป่า…ออกจากร้าน แต่แล้วสายตาผมก็ได้สบพบกับดวงตาคู่นึงและรอยยิ้มที่แสนเป็นมิตร ไม่ครับไม่ใช่รอยยิ้มของเจ้าของร้าน ตาผมไม่ได้ฝาด! ผมเห็นปากกายิ้มให้ผมจริงๆ!

Pilot Kakuno-01

Pilot Kakuno

Pilot Kakuno ปากกาที่เน้นกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเรียนหรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใช้ปากกาหมึกซึมเป็นด้ามแรก คุณจะเชื่อมั้ยถ้าหากผมจะบอกว่าปากกาด้ามนี้คือด้ามที่ส่งยิ้มให้ผม…แน่นอนว่าผมไม่เชื่อสายตาตัวเองเพราะคิดว่าอาจเป็นแค่เพียงในจินตนาการเหมือนครั้งก่อนๆ รอยยิ้มที่แสนเป็นมิตรและดวงตาที่ใสซื่อจ้องมองมาที่ผมอย่างไม่ยอมละ เชื้อเชิญให้ผมเข้าไปน้าวศรยิงเพื่อหมายครอบครอง หากปากกาลามี่เปรียบเป็นสาวน้อยที่น่ารัก…หลากสีสัน…หลายสไตล์ ปากกา Kakuno ก็เปรียบเหมือนหนุ่มน้อยที่แสนร่าเริงสดใส ผมจึงไม่รอช้า ปล่อยศรพุ่งใส่เป้าหมายอย่างไม่ยั้งในทันที! …ทำไมมันดูเบี่ยงเบนจังฟระ?!

Pilot Kakuno-02

กล่องขี้อวดมาก โชว์หมดทุกหย่อมหญ้า

ผมได้ปากกายิ้มได้ด้ามนี้มาจากร้านเครื่องเขียนชื่อดังของโลกใบนี้ครับนั่นก็คือร้านสยามมาร์เก็ตติ้งในห้างเซ็นทรัลเวิร์ลครับ (อวยขนาดนี้สนใจลงโฆษณากับเว็บผมมั้ยครับ?) คือถ้าผมไปห้างนี้เมื่อไรผมมักจะไปแวะร้านนี้ประจำครับ ถึงแม้ว่าร้านนี้จะเน้นขายพวกอุปกรณ์สำหรับวาดการ์ตูนเป็นหลักแต่ก็มักจะมีของเด็ดๆ มาวางขายด้วยเหมือนกันนะก็อย่างเช่นเจ้าปากกาด้ามนี้ยังไงล่ะ ที่ตู้ปากกาหน้าร้านจะวางขายเจ้าปากกานี้ข้างๆ กับปากกาเทพลามี่ครับ แต่เสียดายที่ผมไปช้าไปหน่อยเลยมีสีให้เลือกน้อย พอลองถามน้าคนขายดูแกก็บอกว่าจริงๆ ก็เอามาไม่กี่สีหรอกแต่ตอนนี้เหลือ 3 สีคือ ชมพู น้ำเงิน และก็ส้ม ซึ่งจริงๆ แล้ว Kakuno รุ่นนี้มีหลายสีมากๆ เลยนะ เช่นสีขาวปลอกชมพูพาสเทลก็สวยอย่าบอกใครเลยเชียว ลองตามเข้าไปดูสีอื่นๆ ได้จากเว็บไซต์นี้นะ แน่นอนครับว่านี่คือเว็บบีบีบล็อกควายเปล่งแสง ผมเลยจัดสีส้มมาหนึ่งด้ามอย่างลังเลใจ (อะไรวะ) …495 บาทค่ะ

Pilot Kakuno-31 Official

ด้ามนี้สวยมากเจาๆๆๆๆ / รูปก็อปคนอื่นมาครับ

Pilot Kakuno-03

ราคา 495 บาท เห้ย! ป้ายราคาของร้านสยามมาร์เก็ตติ้งก็เป็นหน้ายิ้มแฮะ

กลับมาถึงบ้านผมก็มานั่งคิดว่าไอที่เราซื้อมานี่มันแพงหรือถูกกันแน่เนี่ย? ผมเลยลองเข้าเว็บไซต์ขายปากกาหลายๆ เว็บเพื่อเช็คราคาว่าจริงๆ แล้วเจ้าปากกายิ้มได้นี้ ณ ตลาดโลกมันมีค่าตัวเท่าไหร่กันแน่ โดยที่เว็บ Jetpen ตั้งราคาขายไว้ที่ 16.50$ (ประมาณ 530 บาท ราคานี้ยังไม่รวมค่าส่งนะ) แต่ทางเว็บญี่ปุ่นจะตั้งไว้ที่ราคา 1,000 yen หรือประมาณ 315 บาทครับ ดังนั้นถ้าหากว่าจะซื้อปากกาด้ามนี้แนะนำให้สั่งซื้อจากทางฝั่งญี่ปุ่นดีกว่านะครับเพราะถูกมาก เพื่อนใครอยู่ญี่ปุ่นก็ฝากเค้าหิ้วมาก็เข้าทีนะ ดังนั้นราคา 495 บาทที่ร้านนี้ขายก็ถือเป็นราคาที่รับได้ครับไม่แพงเลย

Pilot Kakuno-04

Pilot Kakuno ขนาด nib F

Pilot Kakuno-05

ด้านหลังก็บรรยายสรรพคุณทางยาเอาไว้เยอะแยะครับ ผมผู้ซึ่งเคยไปเรียนที่ญี่ปุ่นมา 4 ปีจะแปลให้ฟังนะ

Pilot Kakuno-06

ซ้าย : บีบนวดปากกาแล้วมันจะทำปากจู๋ / ขวา: ท่องคาถาให้ปากกาฟังด้วยถ้อยความในกระดาษที่แนบมา

ผมจัดแจงถ่ายรูปกล่องอย่างไม่รอช้า แทบอดจะไม่ไหวที่จะได้สัมผัสและเนื่องจากการที่จุดเด่นของปากกา Kakuno ด้ามนี้เป็นปากกายิ้มได้ ทาง Pilot เองก็เลยทำกล่องมาเพื่อ “อวด” จุดขายนั้นไว้ให้เห็นชัดเจนครับ กล่องปากกาทั่วไปก็จะแต่มีปากกาที่เสียบปิดอยู่ในปลอกวางอยู่ในกล่องเท่านั้น แต่เจ้า Kakuno นี้กลับถูกวางยึดไว้ในกล่องอย่างแน่นหนาไม่ให้ขยับหรือกลิ้งได้ แถมยังมาในสภาพเปลือยเปล่า ตัวด้ามถอดแยกออกจากตัวปลอกเผยให้เห็นรอยยิ้มบน nib ได้อย่างชัดเจนครับ …ฟังไม่ผิดครับ “nib ยิ้ม”

Pilot Kakuno-07

มีซีลปิดกันเปิดแบบนี้ก็อดลองกันพอดีสิ!

Pilot Kakuno-08

กล่องล็อคแน่นหนาหนีพี่ไม่พ้นแล้วล่ะละมั่งน้อย!

แกะเปิดกล่องปากกาอย่างช้าๆ ก็เห็นหนุ่มน้อยของเรานอนตัวสั่นระริกอยู่ในกล่องปากกาใบน้อย ร่างกายที่เปลือยเปล่าแต่มีผิวกายที่เรียบลื่นมือและมันวาว(ตัวด้ามทำจากเรซิ่นแข็งผิวลื่นเงา) นอนแผ่กายาโดยไร้อาภรณ์ใดๆ ปกคลุม (เปิดปลอกปากกาอยู่) แต่กลับถูกพันธนาการจนไม่อาจขยับหรือขัดขืนออกไปไหนได้ (ตัวกล่องเป็นช่องยึดแน่นหนากันปากกากลิ้งเพื่อให้เห็น nib ยิ้มได้อย่างชัดเจน) ผมไม่รอช้า…เอื้อมมือคว้าเพื่อโอบประคองต้นคอขึ้นมากอดอย่างร้อนใจ (เอานิ้วงัดปากกาขึ้นมาจากร่องเพราะมันแน่นเกินไป) แต่ผมไม่ใช่คนใจร้ายใจดำจึงไม่ลืมที่จะหยิบเครื่องนุ่งห่มเพื่อมาปกคลุมร่างกายเล็กๆ ร่างนี้ด้วย (หยิบปลอกมาสวมลองดูว่าหน้าตามันเป็นยังไงกันแน่)

Pilot Kakuno-09

สีปลอกช่างตัดกับตัวด้ามจริงๆ เด่นเตะตามาก

Pilot Kakuno-15

มือจับเป็นสีเทาใสแบบเดียวกับ Lamy AL-Star สวยดีเข้าใจลอกนะ

จับได้ถนัดมือแม้จะเป็นทรง 6 เหลี่ยม / ขออภัยนางแบบไม่ได้ตัดเล็บ

…เริ่มรู้สึกเลือดในกายมันร้อนวูบวาบพิลึกครับเลยขอตัดจบกลับมาพูดคุยภาษาปรกติกันดีกว่า… ปากกา Kakuno ด้ามนี้ออกแบบมาเป็นรูปทรง 6 เหลี่ยมตลอดทั้งด้ามและปลอกปากกาครับ ทีแรกผมก็คิดว่ารูปทรงนี้มันจะจับได้ถนัดมือเหรอจะกลมก็ไม่กลม มีบากรับร้องนิ้วหรือก็ไม่มี แต่กลับกลายเป็นว่าไอด้ามทรง 6 เหลี่ยมมนๆ นี่แหละครับกลับจับถนัดมือยิ่งนักเพราะตำแหน่งของนิ้วจะรับกับตัวด้ามพอดี จับได้กระชับไม่กลิ้งหมุนไปมาแถมเท่านั้นยังไม่พอ

Pilot Kakuno-13

ดูกันชัดๆ มีหน้ายิ้มบน nib ไม่ได้โกหกนะ

Pilot Kakuno-14

หงายท้องดูก็เห็น ink feed ที่แน่นหนาดึงยังไงก็ไม่ยอมหลุดแฮะ

พอใช้ไปสักพักผมก็เริ่มรู้แล้วล่ะครับว่าทำไมเค้าถึงทำให้ nib มันเป็นรูปหน้ายิ้ม ต้องอย่าลืมครับว่ากลุ่มเป้าของปากกาด้ามนี้นั่นก็คือกลุ่มนักเรียนหรือผู้ที่ต้องการหัดใช้ปากกาหมึกซึมเป็นครั้งแรก จำได้มั้ยครับว่าตอนคุณใช้ลามี่ครั้งแรกคุณหันหัวปากกาถูกด้านไหม? ผมคนนึงละที่มั่วอยู่พักนึงพาลคิดว่าปากกาแบบนี้มันจะสามารถเขียนได้รอบด้านทีวี 360 องศา ทำให้หันหัวปากกาผิดอยู่บ่อยๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงมีหน้ายิ้มบน nib ครับ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับรู้ได้ด้วยสัญชาติญาณว่าการจับแบบนี้แหละโดยการหันด้านหน้ายิ้มขึ้นข้างบนเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะเราจะได้เห็นรอบยิ้มอยู่ตลอดเวลายังไงล่ะครับ ฉลาดมาก!

Pilot Kakuno-11

หน้าตาแกแปลกจริงๆ ให้ตายเหอะ เหน็บกระเป๋าก็ไม่ได้ โว๊ะ

Pilot Kakuno-12

ตุ่มเล็กๆ ตรงนี้แหละครับที่ช่วยยับยั้งการเกลือกกลิ้งหล่นลงสู่พื้นโลก

Pilot Kakuno-10

โอ๊ะโย้โหยว

ปลอกปากกา Kakuno นี่ทำมาแปลกครับ เป็นปลอกปากกา 6 เหลี่ยมมนที่มีร่องขนาดพอดีนิ้วมือช่วยให้จับได้ถนัดขึ้นเวลาจะถอดปลอกออก นอกจากนั้นยังไม่มีคลิปปากกาอีกต่างหาก ผมซึ่งเป็นคนที่เหน็บปากกากับกระเป๋าเสื้อจึงเคืองในจุดนี้มากเพราะอยากเอาออกไปอวดชาวบ้านเค้าแต่ดันไม่มีคลิปหนีบมาด้วย พนันกันได้เลยว่าปากกาต้องร่วงตกหายภายในวันสองวันนี้แน่ๆ (ผมก้มๆ เงยๆ บ่อยหน่ะครับ) แต่แทนที่จะมีคลิปหนีบกระเป๋าแต่กลับมีตุ่มเล็กๆ งอกขึ้นมาแทนเพื่อเอาไว้ใช้เป็นตัวกันไม่ให้ปลอดปากกากลิ้งตกจากโต๊ะนั่นเองครับ อ้อ! อีกจุดนึงที่น่ารักก็คือ ตรงส่วนด้านบนของปลอกจะมีรูอยู่สามรูวางเรียงเหมือนรูบนลูกโบว์ลิ่งซึ่งมองดูแล้วจะเป็นหน้า “โอ๊ะโย้โหยว” น่ารักและตลกดีครับ

Pilot Kakuno-19

ไอมนุษย์หัวปากกาสองตัวนี่ดูๆ ไปก็น่ากลัวชะมัดเลยแฮะ ลองคิดว่ามันมาเคาะประตูบ้านตอนกลางคืนดูดิ บรื๋อออออ~~

Pilot Kakuno-20

อีกด้านนึงมันพับๆ ไงเลยกลับหัว

Pilot Kakuno-21

หากใช้แล้วไม่พอใจ : โปรดโยนโรเจอร์ทิ้งให้ตายอย่างสงบในแม่น้ำใกล้บ้าน > โรเจอร์

Pilot Kakuno-22

สามารถใช้กับหลอดสูบหมึกได้สองแบบนะ เอาไว้ถ้าผมหามาได้แล้วจะเอามาเขียนอัพเดตให้อ่านกันครับ

ในกล่องนอกจากจะมีกระดาษคู่มือการใช้สอดมาให้ก็ยังมีหมึกปากกาแบบหลอดแถมมาให้ด้วย 1 หลอดครับ ซึ่งเจ้า Kakuno นี้สามารถใช้หลอดสูบหมึกได้สองรุ่นนะคือรุ่น CON–20 กับ CON–50 ครับแต่ว่าวันที่ไปซื้อทางร้านบอกว่าหลังสงกรานต์ของน่าจะมาแล้วเพราะสั่งไปแล้วครับ

Pilot Kakuno-23

ซองใส่หมึกดูปกป้องมั่นใจหายห่วงจริงๆ (อะไร?)

Pilot Kakuno-24

พุ่งปากกาไปข้างหน้าให้เป็นแนวเส้นตรง[สนุก] / อะไรนะมีภาษาอังกฤษข้างล่างเหรอ?

Pilot Kakuno-25

หลอดหมึกหน้าตาเป็นแบบนี้นะ เวลาใช้ให้เอาด้านซ้ายใส่เข้าไปในปากกา

Pilot Kakuno-26

ใส่แล้วกดเข้าไปให้แน่นครับกันหลอดหมึกหลุดเลอะเทอะ

จัดแจงหมุนส่วนมือจับปากกาที่เป็นสีเทาใสเหมือนลามี่ AL-Star ออกเพื่อเติมหมึก กดหลอดหมึกสีดำลงไปจนสุดแล้วรอเพียงไม่กี่อดใจก็เริ่มบรรจงเขียน Kakuno รุ่นนี้มีขนาดของ nib ด้วยกัน 2 ขนาดครับคือ F และ M และแน่นอนว่าผมต้องเลือก F เพราะเป็นคนชอบเส้นเล็กๆ เวลาสเก็ตช์ลงรายละเอียดจะได้สวยๆ แต่ F ของ Kakuno นี่มันเล็กเว่อร์ครับ ผมลองเทียบกับ nib ของ Lamy ก็จะได้เส้นที่เล็กกว่าขนาด EF ของลามี่อีกครับ ซึ่งตรงนี้ผมว่าเป็นปัญหา! เพราะการที่ปากกามี nib ที่เล็กแล้วเขียนลื่นนั้นจะต้องมีการแต่งปลาย nib มาอย่างดีและละเอียดพิถีพิถันมาก แต่ Kakuno ด้ามนี้สอบผ่านแค่เพียงฉิวเฉียดครับ ที่ผมพูดแบบนี้ก็เพราะว่าผมชอบขนาดของเส้นนะเพราะเล็กแบบที่ต้องการครับ แต่ “มุม” มันไม่ได้อ่ะครับ ปากกาด้ามนี้ต้องจับปากกาและหมุนมุมที่ “ถูกต้อง” มันถึงจะเขียนได้ลื่นหัวแตกครับ แต่ถ้าคุณเผลอหมุนปากกาเข้าหาตัวนิดนึงจะก็มันจะเริ่มกินกระดาษแล้วครับเขียนไม่มันแถมเสียงน่ารำคาญมาก ส่วนเรื่อง ink flow ก็ไม่มีปัญหาครับ ถือเป็นปากกาที่หมึกไหลได้ดีครับ ขนาด nib เส้นเล็กขนาดนี้ยังให้หมึกได้สม่ำเสมอแต่ถ้าลากเส้นเร็วมากๆ ก็ไม่ไหวอยู่ดีนะก็ nib เล็กมันส่งหมึกไม่ทันจริงๆ

Pilot Kakuno-27

เทียบขนาดเส้นกับ Lamy EF ที่ผ่านการใช้งานต่างปีกัน Kakuno เส้นบางที่สุดแฮะ ชอบ

ทั้งนี้ทั้งนั้นผมคิดว่าปัญหาการหมุนด้าน nib ที่ถูกต้องนั้นน่าจะเป็นลักษณะเฉพาะของปากกา Kakuno ครับเพราะผมได้ลองเอากล้องส่องกำลังขยายพิเศษส่องปลาย nib ดูก็ไม่เห็นว่ามีอากา nib เกยกันหรือเสียหายผิดปรกติ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากใครที่มีปากกาด้ามนี้ไว้ในครอบครองก็รบกวนแจ้งกันเข้ามาด้วยนะครับว่าต้องหมุนมุมเขียนหรือเปล่านะ (ผมยังไม่ได้ลองขนาด M นะครับ แต่เชื่อแน่ว่าน่าจะเขียนลื่นหัวแตกแน่ๆ เพราะเป็น nib มันขนาดใหญ่ขึ้นครับ)

Pilot Kakuno-28

เส้นเล็กสเก็ตช์แล้วก็ชอบเลยแหะ แต่ต้องหามุมดีๆ ซึ่งไม่ชินเลย

Pilot Kakuno-29

พยายามลงสีน้ำแบบเลี่ยงการสัมผัสกับเส้นหมึกโดยตรง…ไม่รอด

เรื่องหมึกผมไม่ขอทดสอบจริงจังแล้วกันนะครับเพราะแน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นหมึกธรรมดาไม่กันเลยขอวาดรูปลงสีน้ำมาให้ดูเล่นๆ ละกันครับ ผลคือเละ!!

Pilot Kakuno-17

สวมปลอกแล้วจะสั้นกว่าลามี่ประมาณ 1 ช่วงข้อนิ้วมือ / มาตรวัดบ้านแกเหรอ?

Pilot Kakuno-18

สวมปลอกแล้วก็ยาวไม่ต่างกัน

ผมลองมาคิดๆ ดูว่าถ้าราคาค่าตัวที่ 495 บาท ไอปากกาด้ามนี้มันจะขายได้เหรอวะ? ก็ในเมื่อปากกาลามี่ในบ้านเราด้ามแค่ 800 กว่าๆ แถมมีโปรลดราคา 20% ตลอดชาติเหลือประมาณ 700 ติ๊ดๆ ถ้าอยากได้ปากกาคุณภาพดีจริงๆ ยอมกัดฟันเพิ่มอีก 200 ซัดลามี่ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ? ถ้าในบ้านเรามันก็ใช่ครับ แต่ถ้ามองว่าปากกาหมึกซึมที่คุณภาพดีจากบริษัทผู้ผลิตชั้นยอดอย่าง Pilot น่าตาหน้ารักสีสันสวยงามมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และก็วางขายในประเทศญี่ปุ่นที่มีราคาเพียง 315 บาท ผมเลือกเจ้าปากกานี้มาใช้เป็นปากกาสำรองได้อย่างไม่ลังเลเลยครับ คุณภาพดีคุ้มค่าคุ้มราคาจริงๆ (ผมเชียร์มากกว่าไอปากกา Hero ขี้ก๊อบนั่นอีก)

Pilot Kakuno-30

เดี๋ยวจะเอารูปนี้ไปแปะบน อตก (instagram) ด้วย ฝากเข้าไปเยี่ยมชมด้วยนะครับใช้ชื่อนี้ hackhq

ถ้าถามว่าเงิน 495 บาทคุณสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้าง? ถ้าเป็นผมคงจะตอบว่าเอาไปซื้อขนมโตเกียวอันละ 5 บาท ก็จะได้ 99 อัน หรือถ้าเอาไปซื้อแหนมเสียบไม้ปิ้งอันละ 10 บาทก็จะได้กินทั้งหมด 49 อันเหลือเงิน 5 บาทเอาไว้ซื้อมาม่าอีก 1 ซอง อะไรนะมาม่าซองละ 6 บาท? งั้นหาเหรียญตกพื้นแถวนั้นอีกบาทนึงละกัน แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อครับ…ผมต้องการจะสื่อว่า หากคุณมีงบในการซื้อปากกาหมึกซึมอยู่ 500 บาท ปากกาด้ามนี้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะสามารถซื้อได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพในการผลิตตัวด้ามปากกาที่ดี nib ที่เขียนได้ลื่นดีในระดับที่น่าพอใจ หน้าตาน่ารักเปิดปลอกปากกาทีไรก็เห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้ รูปร่างลื่นมนหยิบจับได้ง่ายเขียนได้ถนัดมือ แถมยังสามารถใช้หลอดสูบหมึกเติมหมึกที่ต้องการได้อีกด้วย คุ้มค่าและน่ารักขนาดนี้ แวะร้านเครื่องเขียนคราวหน้าก็อย่าลืมส่งยิ้มให้ Kakuno บ้างนะครับ 🙂

หากอ่านแล้วถูกใจชอบใจ ฝากกดแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ \( - 3-)/
โพสตอนนี้อยู่ในหมวด Pen และมี tag ดังนี้ , , , , โพสเมื่อวันที่ .
hackhq

คนธรรมดาที่หลงใหลในการสเก็ตช์ ใช้ปากกาลามี่เป็นอาวุธ มีสมุด Moleskine เป็นผืนผ้าใบและมีจินตนาการในรูปของสีน้ำ หลงใหลรูป รส กลิ่น ของกาแฟ และเคลิบเคลิ้มกับเสียงของดนตรีแจ๊ส | ติดต่อผมบนทวิตเตอร์ได้ที่ @hackhq

เว็บไซต์ : https://www.bbblogr.com