“083 เพื่อนรัก ตอนนี้ชั้นถูกพวกมันล้อมไว้หมดแล้ว ทั้งทางเข้าด้านหน้าหรือทางออกด้านหลังก็ถูกสกัดไว้หมด หากชั้นต้องมีอันเป็นไป… นายช่วยเอาแผ่นกระดาษที่มีโลโก้ของเว็บไซต์ชื่อดัง Sketchland Yard บนโต๊ะทำงานชั้นไปถอดรหัสด้วย นั่นคือคำพูดสุดท้ายที่ชั้นอยากจะพูดกับแก แกรู้ดีใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง” 012 สายลับชื่อก้องโลกผู้กำลังถูกไล่ล่าส่งสัญญาณเสียงผ่านโทรศัพท์นาฬิกาของเขา
“ชั้นต้องหนีอีกรอบล่ะ! พวกมันมากันแล้ว!! ลาก่อนเพื่อนรัก หากชาติหน้ามีจริงหวังว่าคงได้ร่ำสุรากันอีกนะ ลาก่อน!”
ปัง! ปัง! ปัง! ตรู้ดด–ด ตรู้ดดด แกร็ก
…
ออฟฟิศสำนักงานสายลับแห่งชาติแห่งนี้เคยมีเสียงของสายลับชื่อก้อง 012 พูดคุยคอยสร้างเสียงหัวเราะ …แต่ตอนนี้มันช่างเงียบเหงาเสียจริงๆ ทุกคนในออฟฟิศล้วนแต่เศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของเขากันมาก เขาผู้สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคนต้องมาตายในหน้าที่ให้กับเจ้าพวกองค์กรชุดดำ ช่างน่าเจ็บแค้นยิ่งนัก… สายลับทุกคนต่างก็เฝ้ารอนักสืบมัธยมปลายชื่อดังอย่าง คุโด้ ชินอิจิ ให้สามารถทลายองค์กรนี้ได้โดยเร็วแต่ตอนนี้เขากลับหายตัวไปไม่สามารถติดต่อได้ เฝ้ารอให้เขาคลี่คลายคดีองค์กรชุดดำมาหลายปีแล้วจนปาเข้าไปเล่มที่ 75 ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะจบจะสิ้นเสียที ลองคูณเข้าไปสิว่าถ้าราคาเล่มละ 50 บาท รวมๆ แล้วเราหมดเงินกับไอนักสืบบ้านี่ไปเท่าไหร่กันแล้ว!!
“ใช่แล้ว …คำพูดสุดท้ายที่ 012 ฝากไว้นั่นก็คือให้นำแผ่นกระดาษโน้ตที่มีโลโก้ของเว็บไซต์ชื่อดัง Sketchland Yard มาไขรหัสลับนี่หว่า ไอเจ้ากระดาษแผ่นนี้มันอยู่ที่ไหนกันนะ” 083 รำพึงรำพันกับตัวเองในใจ
083 ค้นโต๊ะทำงานที่แสนรกรุงรังของ 012 เพื่อหากระดาษโน้ตที่สำคัญยิ่งแผ่นนั้น บนโต๊ะเต็มไปด้วยกองเอกสาร รูปภาพถ่ายบุคคลต้องสงสัยในแต่ละคดี นอกจากนั้นยังมีขวดหมึก สมุด Molesine อีกทั้งยังมีสีน้ำ พู่กันต่างๆ วางกองเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วกระดาษแผ่นนี้มันคือแผ่นไหนกันนะ?
“แล้วชั้นจะหามันเจอมั้ยเนี่ย 012” สายลับ 083 ได้แต่รำพัน
…
โถ…คือแกอยากบ่นเรื่องไอการ์ตูนเด็กนรกโคนันมากเลยสินะเลยเอามามั่วเขียนปนในบล็อกด้วยหน่ะ ชั้นว่านะ ลูกแกแต่งงานมีลูก 3 คนแล้วไอการ์ตูนนี้มันยังไม่จบแน่เลยหว่ะ กากขิง
เอาครับเข้าเรื่อง! หมึกในวันนี้เป็นหมึกที่สมกับคำว่าสายลับจริงๆ ให้ตายสิ นั่นก็เพราะว่าหมึกตัวนี้เป็นหมึกที่เขียนแล้วไม่มีใครสามารถมองเห็นได้หากไม่รู้วิธี ใช่ครับ ตอนเขียนไปผมก็มองไม่เห็นเหมือนกันเหมือนเขียนลงบนกระดาษโดยที่ไม่มีหมึกปากกา แต่ถ้าใช้วิธีพิเศษเราก็จะสามารถเขียนได้อย่างสนุกสนานทีเดียวครับ หมึกตัวนี้มีชื่อว่า… “ผีสีน้ำเงิน”
Noodler’s Blue Ghost 90 ml หรือหมึกผีสีน้ำเงินที่ผมเรียก…เป็นหมึกล่องหนของจริงอะไรจริงครับ เขียนบนกระดาษแล้วจะไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อเราฉายแสง UV หรือที่เรียกกันว่า black light[1] ลงบนหมึก ตัวหนังสือและลายเส้นล่องหนเหล่านั้นก็จะปรากฏออกมาครับ! โคตรสายลับเลยนะนายจ๋า!! (แล้วไปออกแขกได้ไงวะ?)
ผมได้หมึกขวดนี้มาจากการเสียเงินเป็นหมู่คณะจากกลุ่มลับบนเฟสบุคครับ กลุ่มนี้มีชื่อว่า “ทาสน้ำหมึก” …ซึ่งฟังจากชื่อและรายนามสมาชิกแต่ละท่านแล้ว คนที่สามารถตั้งชื่อกลุ่มได้ลิเกขนาดนี้คงไม่ใช่ใครที่ไหนครับ อ่าห์ คุณผู้อ่านเข้าใจถูกล่ะครับเธอคนนั้นก็คือ คุณเมย์ @jeansbb แห่งเพจ Rubber P Layer นั่นเอง! (เพจที่แกะยางลบแล้วเอามาอวดกันอ่ะ) กลุ่มนี้มันมีที่มาที่ไปอย่างไรไม่มีใครทราบได้ครับแต่จะรู้กันในวงการคนเล่นปากกาว่าเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนโดยสมาชิกผู้เสพติดการใช้หมึกปากกา โดยสมาชิกมีเพียง 10 คนเท่านั้น! (อย่าเพิ่มไปมากกว่านี้ล่ะ เยอะเกินเดี๋ยวโดนเพ่งเล็งจากองค์กรชุดดำ)
กิจกรรมในกลุ่มนี้วันๆ ก็ไม่ทำอะไรหรอกครับ เอาแต่เข้าเว็บสั่งหมึก สั่งปากกา แล้วก็เอาลิ้งค์มาแปะกันบนกลุ่มคอยถามว่า “จะสั่งยางงง? จะสั่งยางงงง? ถ้าจะสั่งบอกเก๊าด้วยน้าาา เก๊าอยากเสียเงินแล้วววว” เป็นเช่นนี้ซ้ำๆๆๆๆ จนเป็นชีวิตประจำวันไปแล้วครับ ผมเองซึ่งอยู่กับบ้าน วันทั้งวันก็เอาแต่นั่งอ่านหนังสือธรรมะ ไม่ยึดติดกับพวกสิ่งของนอกกายใดๆ ปากกาเหรอ? หมึกเหรอ? สมุดเหรอ? ไม่เคยสนใจครับจะซื้อเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น กิเลสสามารถระงับได้ขอแค่เราตั้งใจจริง เป็นคำที่ผมท่องไว้เสมอครับ (ไอบ้า!! แกอ่ะตัวดีเลย!!) แล้วจู่ๆ ผมก็ถูกชวนเข้ากลุ่มนี้โดยบังเอิญครับ
ผมโดนสมาชิกในกลุ่มนี้หลอกล่อด้วยเล่ห์เพทุบายสารพัดครับ ไม่ว่าจะเป็นคำกล่าวเยินยอ ป้อล้อด้วยเสียงหวานๆ เอาขนมให้กินบ้าง นวดแขนให้บ้าง หนักสุดจะเป็นโพสรูปขวดหมึกแต่ละสีแล้วก็แท็กชื่อผมครับ ผมโดนอย่างนี้อยู่ 2 นาที ผมก็เริ่มคล้อยตามเข้าจนได้ (หืม? แกง่ายไปมั้ยอ่ะ?)
ผมเลือกสั่งหมึก Blue Ghost ขวดนี้พร้อมกับหมึกอื่นอีก 2 ขวดจากเว็บไซต์ Goulet Pens โดยการสั่งจะเป็นการสั่งร่วมกับสมาชิกท่านอื่นอีกหลายคนครับเพื่อให้ได้ค่าส่งที่ถูกและรวดเร็ว เสียเงินเสียภาษีร่วมกันในคราวเดียว วิธีนี้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปครับนั่นก็คือ
ข้อดี
- สั่งเป็นกลุ่มจะได้ลดราคาครับถ้าจำนวนยอดตรงตามเงื่อนไข เช่นที่สั่งคราวนี้คือหมึก Noodler’s จำนวน 5 ขวดจะได้รับส่วนลด 5% ครับ แต่ถ้าสั่งเกิน 10 ขวดก็จะได้ลดไปเลย 10% โอ้ว!! ครั้งนี้เลยได้ลด 10% ไปเลยครับ
- อีกข้อก็คือเรื่องภาษีครับ สั่งเป็นกลุ่มหากได้เสียภาษีจริงก็จะเสียภาษีที่น้อยกว่าปรกติเพราะกรมศุลฯ เค้าจะประเมินภาษีเราต่ำกว่าปรกติครับ …ซึ่งดีแล้วครับดีแล้ว
- อ้อ อันนี้เด็ดสุด ที่เว็บ Goulet Pens นั้นถ้าหากสั่งเยอะแล้วน้ำหนักเกินเกณฑ์ที่เค้ากำหนดไว้ เค้าจะอัพเกรดวิธีการส่งให้เราทันทีครับไปใช้แบบที่เร็วกว่าในราคาที่ไม่ต่างกันมาก ซึ่งได้ของเร็วกว่าเยอะครับแถมมี Tracking Number ให้ด้วยนะ
ข้อเสีย
- สั่งแบบกลุ่มโดนภาษีแน่นอนครับไม่มีทางรอดเพราะจำนวนของเยอะยอดเยอะ
- ข้อนี้โหดร้าย… ถ้าหากสมาชิกในกลุ่มคนใดอยู่ในช่วงดวงตกหรือเป็นปีชงกับเทพเจ้าแห่งการช็อปปิ้งออนไลน์ เกิดดวงซวยจริงๆ พัสดุสูญหายไประหว่างทางก็จะเรียกได้ว่า “ชิบหายหมู่” คือหายก็คือหายครับ หายนะเข้าใจมั้ย? โอยยย ไม่อยากจะคิด!!
แน่นอนว่าหมึกตัวนี้เป็นหมึกล่องหนครับหรือที่เรียกกันว่า Invisible Ink ซึ่งต้องใช้การฉายแสง UV หรือ black light ในการช่วยให้มองเห็นครับ วิธีก็คือเราจะเอาไฟฉายแสง UV ฉายไปบนกระดาษที่เราเขียนไว้ด้วยหมึกตัวนี้ครับแล้วหมึกล่องหนที่เขียนไว้จึงจะปรากฏขึ้นมา แต่เมื่อเราปิดไฟ หมึกที่เราเขียนไว้ก็จะหายไปมองไม่เห็นเช่นเดิมครับ สายลับมากแม๋น!!
ดังนั้นการจะสามารถดูหมึกชนิดนี้ได้จึงจำเป็นต้องมีไฟฉายแสง UV ครับ ผมจึงไม่ลืมที่จะสั่งจาก Goulet Pens มาด้วยโดย 1 ชุดจะมี 2 อันครับ รวมแล้วราคาอยู่ที่ 2.50USD โดยไฟฉายอันจิ๋วนี้ใช้ถ่านไฟฉายเล็กจิ๋วจำนวน 3 เม็ด ตัวไฟฉายจะใช้หลอดไฟ LED หนึ่งหลอดเป็นตัวให้แสง UV แล้วก็มีแถบยางติดมากับตัวไฟฉายนี้เลย ไอแถบยางนี่ตอนแรกก็งงๆ ครับว่ามันเอามาใช้ทำอะไร แต่พอกดเข้าไปดูในเว็บไซต์ก็ถึงบางอ้อ เค้าเอาไว้รัดนิ้วเวลาที่เขียนนั่นเอง! โดยเวลาที่จับปากกาแล้วเขียน ไอไฟฉายจิ๋วนี่ก็จะได้ส่องบนกระดาษไปด้วยยังไงละครับ ซึ่งไอเดียนี้เป็นไอเดียที่ดีมากๆๆๆๆๆ …แต่พอใช้จริงๆ แม่งโคตรน่ารำคาญเลยครับ! ส่องไม่ค่อยตรงเพราะยางมันหลวมแถมเขียนไปสักพักก็หลวมหลุดอีก รำคาญโคตร!
โอเคครับเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเราก็มาเข้าถึงช่วงทดสอบหมึกกันครับ ขวด Noodler’s Blue Ghost เป็นขนาด 3oz หรือ 90ml หน้าตาขวดก็เหมือนเดิมครับฉลากบนขวดก็บ้าบอไม่เปลี่ยนแปลง มีการเขียนไว้เสร็จสรรพว่าต้องใช้แสง black light ฉายนะถึงจะเห็นหมึก ส่วนน้ำหมึกในขวดนั้นก็ใสครับ ถ้าไม่รู้ว่าขวดนี้เป็นขวดหมึกคงคิดว่าไอที่อยู่ในขวดนี้เป็นน้ำเปล่าใส่อยู่แน่ๆ ก็เพราะว่าหมึกมันใสนั่นเอง
Color อย่างที่บอกครับ หากไม่มีการฉายแสง UV ลงไปบนหมึก ตัวน้ำหมึกก็จะมีสีใสครับ เติมลงปากกาก็เป็นสีใส เขียนออกจากปากกาก็เป็นสีใส เอามาทาหน้าก็เป็นสีใส สรุปมันเป็นสีใสครับ โว๊ะ! แต่เมื่อเราเอาแสง UV ฉายแล้วหมึกตัวนี้ก็จะเรืองแสงออกมาเป็น “สีฟ้า” จนสามารถมองเห็นได้ครับ!! แล้วจะยิ่งเรืองแสงสวยงามมากขึ้นหากอยู่ในที่มืด *แล้วยิ่งถ้าเราเขียนลงบนกระดาษที่ไม่ค่อยมีส่วนผสมของ สารเรืองแสง ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งทำให้เห็นหมึกมันเรืองแสงสวยงามมากขึ้นไปอีกครับ(เดี๋ยวผมจะอธิบายต่ออีกทีนะ) เป็นหมึกเรืองแสงสีฟ้าที่สวยงามมากเลยครับ งามจนน้ำตาจะไหลเลยยย T_T อืม…หมึกเข้าตาหน่ะ…
Feather มีให้พบเห็นบ้างตามสไตล์หมึก Noodler’s บนกระดาษ Moleskine แบบธรรมดาครับ แต่ว่าไม่ได้เส้นแตกมากมายจนเกินรับได้อะไรหรอกนะ ตัวหนังสือยังคงคมชัดสวยงามอ่านแล้วไม่รำคาญตาครับ
Dry Speed ทีแรกก็นึกว่าถ้าเป็นหมึกสูตรเรืองแสงแล้วมันจะแห้งช้ากว่าหมึกแบบธรรมดาเสียอีก แต่ที่ไหนได้มันก็แห้งเร็วมากระดับ 5 วินาทีเหมือนหมึก Noodler’s ทั่วไปนั่นแหละครับ เขียนไปส่องไฟไปแป๊บเดียวก็แห้งแล้ว สบายใจได้ไม่มีเลอะครับ
Bleed แหะๆๆๆ อย่าคิดนะว่าเป็นหมึกล่องหนแล้วจะไม่ซึม ซึมครับ!! แต่เป็นการซึมที่ตลกดีครับ เวลาที่เราพลิกหน้ากระดาษด้านหลังดูหากไม่เปิดไฟก็ไม่เห็นอะไรหรอกครับ แต่ถ้าเราฉายแสงก็จะเห็นรอยหมึกซึมเป็นจุดเล็กๆ เต็มหน้ากระดาษไปหมด ดูๆ ไปก็คล้ายกับแสงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้ายามค่ำคืน (เห้ยๆๆ เว่อร์ไปๆ)
Smooth เป็นหมึกอีกตัวที่เขียนได้ลื่นมือดีครับ เขียนได้เหมือนปรกติไม่มีอาการหมึกฝึดทำให้เขียนยากเลยครับ
Ink Flow ไม่มีอาการหมึกฝืดข้นไหลยากจนต้องสะบัดๆๆ อวัยวะแต่อย่างใดครับ (เพลงโจอี้ไง โจอี้บาซู…)
Smell อื้มมมม อันนี้น่าสนใจครับ เปิดฝาขวดหมึกขึ้นมาครั้งแรกผมได้กลิ่นหวานอ่อนๆ ของหมึกครับ ซึ่งจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นกลิ่นผลไม้หรือน้ำหอมแต่อย่างใดเพียงแต่จะบอกว่ากลิ่นมันไม่ได้ฉุนเลวร้ายแต่จะออกไปในแนวหวานๆ …แต่ไม่ได้บอกให้เอาไปดมเล่นนะ!!
Waterproof แน่นอนว่าหมึกของ Noodler’s นั้นขึ้นชื่อเรื่องกันน้ำได้ดีที่สุดในโลก แต่ถามว่าแล้วหมึกล่องหนแบบนี้มันจะยังคงคุณสมบัติการกันน้ำไว้อยู่หรือไม่ หากคุณได้ลองอ่านบนฉลากบนขวดดูจะมีเขียนไว้ว่า “The Only BULLETPROOF Invisible Ink” แน่นอนครับว่าผมไม่เคยเชื่อคำอวดอ้าง งั้นต้องมาพิสูจน์กัน!!
ตามธรรมเนียมครับผมใช้หมึกตัวนี้เขียนทดสอบบนแผ่นกระดาษธรรมดาของ Moleskine เพราะผมอยากเห็นเส้นและตัวอักษรได้อย่างชัดเจนครับ เขียนเสร็จก็ทิ้งไว้ให้แห้งสนิทสัก 10 นาทีจากนั้นจึงเอามาแช่น้ำ การทดสอบนี้ทำในห้องมืดซึ่งให้ความรู้สึกเท่ชะมัดเลยครับ ผมเปิดไฟฉายแสง UV แล้วจึงค่อยๆ หย่อนกระดาษที่มีหมึกล่องหนสีฟ้าเรืองแสงเขียนอยู่ลงในน้ำ แต่ผลกลับออกมาผิดคาดครับ!! เส้นหมึกที่เขียนไว้กลับมีหมึกไหลปนออกมากับน้ำทำให้เส้นและตัวหนังสือที่เขียนไว้เบลอแลดูไม่ชัดเจนครับ
ผมทิ้งกระดาษไว้ในน้ำให้นานขึ้นแล้วจึงนำขึ้นมาตากให้แห้งจากนั้นจึงพิจารณาดูอีกครั้ง คุณผู้อ่านคงจะเห็นใช่ไหมครับว่าตรงส่วนมุมกระดาษด้านขวาบนเส้นและตัวหนังสือยังคงชัดเจนนั่นเพราะส่วนนั้นไม่ได้จุ่มลงไปในน้ำครับแต่ส่วนที่เหลือเส้นจะเบลอ แต่อย่างน้อยหมึกตัวนี้ก็ไม่ได้ไหลออกไปกับกระแสธาราไปเสียหมดนะครับยังสามารถอ่านได้เพียงแต่ไม่ค่อยคมสวยเท่านั้นเอง หมึกตัวนี้จึงเหมาะที่จะเอาไว้เขียนจดหมายหรือข้อความลับครับเพราะไม่ว่าจะโดนน้ำโดนฝนหรือน้ำลายหมาของสาวข้างบ้านก็ยังคงอ่านเนื้อหาข้อความได้นั่นเอง
ข้อแนะนำเรื่องกระดาษ
คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ครับว่ากระดาษที่เราใช้กันทุกวันนี้มีการใส่สารเรืองแสงเข้าไปด้วยเพื่อให้สีของกระดาษนั้นมีความขาวสว่างขึ้น ยกตัวอย่างเช่นกระดาษเอกสาร A4 ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี่แหละครับจะมีสารเรืองแสงผสมอยู่บ้าง หรือว่าจะเป็นกระดาษสำหรับพิมพ์ภาพหมึกปริ้นเตอร์ที่มันขาวๆ สว่างๆ พิมพ์ภาพสีแล้วมันจะสวยสดงดงามไอกระดาษพวกนี้ก็ใส่สารเรืองแสงลงไปไม่อั้นเช่นกัน
แล้วผมมาบอกทำไม? นั่นก็เพราะว่ากระดาษพวกนี้เป็นปัจจัยในการบ่งบอกว่าจะเห็นหมึกล่องหนอันนี้ชัดเจนหรือไม่ยังไงล่ะครับ ลองคิดดูว่าคุณเขียนหมึกล่องหนนี้บนกระดาษ A4 ที่มีสารเรืองแสงแล้วลองฉายแสง UV ลงไป ถึงแม้จะเห็นว่าตัวหนังสือมันเรืองแสงออกมาก็จริง แต่ว่ากระดาษมันก็เรืองแสงด้วย ถึงแม้จะเรืองแสงไม่มากแต่ก็ทำให้แลดูเส้นหมึกไม่ชัดเจนครับ ดังนั้นถ้าอยากจะให้หมึกล่องหนตัวนี้เรืองแสงให้เห็นชัดๆ ผมแนะนำว่าให้ใช้กระดาษที่มีสีไม่ต้องขาวมากครับ ง่ายๆ เลยก็คือกระดาษสมุด Moleskine แบบธรรมดาที่เป็นสีงาช้างยังไงล่ะครับเพราะไม่มีสารเรืองแสง ทำให้หน้ากระดาษไม่สว่างลอยออกมาจนรบกวนแสงจากหมึกครับ ทำให้สามารถเห็นหมึกได้สว่างชัดเจนมากนั่นเอง …เดี๋ยวจะหาว่าผมโม้เพราะซื้อหาไปลองแล้วไม่เห็นเหมือนกับรูปที่ผมถ่ายเลย กรั่กๆๆๆ
ผมขอสรุปประโยชน์ของมันคร่าวๆ ไว้ตามที่สมองอันน้อยนิด(แต่หัวใจผมใหญ่นะ) ของผมจะคิดออกนะครับคือ
- สามารถเขียนไดอารี่ระบายความในใจแล้วเมียมาแอบอ่านไม่รู้เรื่อง นึกว่าสมุดเปล่าหรือไม่ก็ได้อ่านข้อความลวงไปแทน (คำเตือน : จะใช้ได้ดีหากเมียมันไม่อ่านบีบีบล็อกนี้นะ)
- เขียนจดหมายส่งถึงกิ๊กแล้วคนอื่นอ่านไม่เห็น ไม่ว่าจะทั้งแฟนเราหรือแฟนกิ๊กครับ (ทำไมแต่ละข้อมันดูผิดศีลธรรมจรรยาแบบนี้วะ?)
- ทำเครื่องหมายบนเอกสารกันการปลอมแปลงหรือทำซ้ำ เพราะหมึกแบบนี้มันไม่สามารถถ่ายเอกสารได้นะครับ เราอาจจะเซ็นยืนยันรอบนึงด้วยปากกาหมึกกันน้ำก่อน แล้วก็เซ็นอีกรอบด้วยหมึกล่องหนอันนี้เพิ่มลงไป โอ้วมายปลอดภัยเว่อร์ (แกเซ็นหนังสือยินยอมปล่อยจรวดนิวเคลียร์เหรอ?)
- เอาไว้เล่นกับลูกๆ ครับ ในฐานะคนเป็นพ่ออย่างผม…ถุ๋ย!! ผมยังไม่ได้แต่งงานมีลูกเลยนะครับ! สมมติเล่นๆ ว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่อยากหากิจกรรมสนุกๆ เล่นกับลูก ไขรหัสลับเพื่อให้ของขวัญวันเกิดหรืออะไรก็ตามแต่ ลูกๆ ต้องสนุกกับเจ้าหมึกนี้แน่ๆ ครับ
- คิดไม่ออกล่ะครับ ช่วยคิดหน่อย ใครมีไอเดียอะไรเสนอมานะครับเดี๋ยวจะเอามาอัพเดตในนี้นะครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับกับหมึกล่องหนเรืองแสงในที่มืด Noodler’s Blue Ghost ขวดนี้ ทั้งความงาม ความเท่ผมขอยกโล่ห์ให้ไปเลยครับแถมยังสามารถกันน้ำได้ในระดับที่น่าพอใจครับ จะนำไปใช้จดบันทึกก็รับรองได้ถึงความสนุก เขียนข้อความลับส่งถึงกันก็เก๋ไม่หยอก เอาไว้เล่นสนุกกับเพื่อนๆ ได้ไม่มีเบื่อ หรือถ้าอยากยืนยันเอกสารสำคัญก็สามารถทำได้เหนือความคาดหมายเช่นกัน หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบในการใช้ปากกาหมึกซึมและรักที่จะทดลองหมึกแปลกๆ อยู่เสมอ ผมขอแนะนำผีสีน้ำเงิน Blue Ghost ขวดนี้ครับ เป็นหมึกที่ไม่สามารถพลาดได้ด้วยประการทั้งปวง
…
“เจอแล้ว!! นั่นไงกระดาษโน้ตที่มีโลโก้เว็บชื่อดัง Sketchland Yard!!” 083 ตะโกนออกมาด้วยความดีใจที่หากระดาษแผ่นนี้เจอ
ข้อความสุดท้ายที่ 012 ส่งถึงเขาจะเป็นเช่นไรนะ 083 ได้แต่คิดวนอยู่ในหัว และเศร้าเสียใจกับการจากไปของเพื่อนรักในเวลาเดียวกัน
เข้ายกไฟฉาย UV ขึ้นมาเหนือแผ่นกระดาษ เปิดสวิตช์อย่างอ่อนล้าเพื่อฉายแสงลงบนกระดาษแผ่นนั้น
ขอโทษด้วยนะเพื่อนรัก จำคดีก่อนที่เราช่วยกันสืบได้มั้ย? ที่เราสองคนช่วยกันตามหาโจรขโมยคลังสมบัติลามี่ของนายไปหน่ะ นายอาจจะคิดว่าคดีมันจบลงแล้วและคนร้ายที่เราส่งให้ตำรวจนั้นคือคนที่ขโมยลามี่ของนายไปจริงๆ ชั้นขอสารภาพว่านายอเล็กซ์ บาริสต้าสตาร์บัคคนนั้นไม่ได้มีความผิดอะไรเลยนะ เขาเป็นแพะที่ชั้นสร้างขึ้นมาเอง
ชั้นเองต่างหากที่เป็นคนเอาลามี่ทั้งหมดที่แกสะสมไปขายเอง ไม่ได้มีขมงขโมยอะไรบุกเข้ามาหรอก ที่ชั้นทำไปก็เพราะว่าจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ…
ก็แหม่!! น้องเบอร์ตอง 777 นั่นช่างถูกตาต้องใจจริงจริ๊งงงงง!!
ด้วยรัก
012 “เพื่อนแท้” ของนาย
“…นี่นะเหรอข้อความที่แกฝากไว้ถึงชั้น?!! หากชั้นรู้เร็วกว่านี้แกไม่ได้ตายสบายๆ แบบนี้หรอก!!” 083 ตะโกนดัวยความโกรธเกรี้ยว
“แอ๊ดดดดดด” เสียงเปิดประตู
“ไง 083 เพื่อนรัก! ชั้นรอดจากเงื้อมมือพวกนั้นมาได้ ดีใจจริงๆ ที่ได้พบนายอีกครั้ง!” 012 ผู้รอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราช เปิดประตูและโผเข้ากอดเพื่อนรักอย่างดีอกดีใจ
“หึหึหึ ชั้นก็ดีใจที่ได้พบกับแกอีกครั้งเช่นกัน…”