How to Sketch Journal #2 : ทำยังไงดีเมื่ออยู่ในภาวะขาดแคลนสี! มาวาดรูปด้วยแม่สีกันเถอะ!!

in How to Sketch Journal by NewsAri on 13 Jul 2018

เคยมั้ย? เมื่อการเป็นมือใหม่เริ่มวาดรูป ยังมีแค่สีน้ำแม่สี 3 หลอด จะทำยังไงถ้าอยากวาดรูปที่ต้องใช้สีมากกว่านั้น ทำไงดี ทำไงดี๊…

ท่านไม่ต้องกังวลไป วันนี้นิวส์อาริมีบทความมานำเสนอ

และนี่ก็คือ … บทความที่ว่าด้วยเรื่องของความมหัศจรรย์แห่งแม่สีทั้งสาม อันได้แก่ สีเหลือง สีแดง และสีน้ำเงิน มาใช้ในการสร้างสรรค์ภาพวาดอาหารสุดน่ารักน่ากิน ด้วยวิธีอันสุดแสนง่ายดาย ดาย ดาย…

โอ๊ยยย อันที่จริงก็ทำเว่อร์เกินไป๊ มันก็คือการใช้พื้นฐานผสมสี ที่เราทุกคนเคยร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็ก นั่นแหละค่ะ  /ตัดบทตัวเองก่อนที่จะเลอะเทอะไปกว่านี้ 5555

 

…มาเริ่มกันเลยดีกว่า เวลาไม่คอยท่า อย่าช้าที…

 

อุปกรณ์ !!

บทความตอนนี้เรามาในธีมมือใหม่ผู้งบน้อย ขาดแคลนสี น่าสงสาร ดังนั้นเราจะใช้ของให้น้อยยยที่สุด ทำตัวอู้ฟู่ให้น้อยยที่สุดไปเลยละกันนะทุกคน

เริ่มกันที่พระเอกทั้งสามในวันนี้ ได้แก่สีน้ำยี่ห้อ Shinhan (ที่ได้มาฟรีจากพี่ปอนด์ ตอนประกวดวาดภาพบ้านหมา จนเป็นฉายาจากพี่ปอนด์ว่า น้องนิวบ้านหมา กร๊ากก)

เราจะใช้เพียงแค่ 3 สีเท่านั้น คือ เหลือง แดง น้ำเงิน

ส่วนอุปกรณ์อื่น ก็ตามนี้เลยค่ะ ของเดิมที่มี และเคยแนะนำไว้ในบทความแรกเลย

  1. Sketchbook ยี่ห้อตามที่มีและถนัดค่ะ เราใช้ของ POTENTATE 300 gsm
  2. ดินสอกด แนะนำว่าไส้ควรเป็นเบอร์ไม่เข้มมาก เราใช้เบอร์ HB ค่ะ
  3. ปากกา PIGMA (waterproof) เบอร์ 01 สี SEPIA  
  4. พู่กัน RUBENS เบอร์ 3
  5. ยางลบ

และสำหรับนางแบบของเราในวันนี้

ขอเสียงปรบมือต้อนรับ…คุณข้าวหน้าปลาดิบรวม รวม รวม… แปะ ๆ ๆ

หน้าตาดูดี เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันที่หลากหลาย

อย่ารอช้าค่ะ มาสู่ขั้นตอนการร่างภาพกันเล้ยยย

โดยการร่างภาพก็อย่างที่เคยเวิ่นเว้อในบทความแรกค่ะ (ลิงค์นี้นะคะ : https://www.bbblogr.com/how-to-sketch-journal-1/)

เริ่มจากภาพรวมก่อน แล้วค่อยเจาะวาดส่วนรายละเอียดที่เล็กลงเรื่อย ๆ

อย่างงานนี้ เราก็วาดถ้วยข้าว และถ้วยเครื่องเคียงต่าง ๆ ก่อน โดยจัดวางให้เหมาะสมกับหน้ากระดาษ

ต่อมาก็วาดปลาดิบชิ้นที่ 1, 2, 3, 4 และวาซาบิ ไชเท้าดอง ยำสาหร่าย ปูอัด ไข่หวาน โดยแบ่งสัดส่วนขนาดให้ใกล้เคียงกับที่เรามองเห็นค่ะ

โอยย วาดไปก็ท้องร้องไปนะเนี่ย…

แล้วเราก็ได้ภาพร่างที่พร้อมจะตัดเส้น และลงสีกันแล้ว เย่ ๆ

ต่อมาเราก็ตัดเส้นด้วยปากกา PIGMA (waterproof) สีน้ำตาล Sepia ค่ะ

เมื่อตัดเส้นเก็บรายละเอียดต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ลบเส้นดินสอออกค่ะ (ขั้นตอนนี้ต้องแน่ใจก่อนนะคะ ว่าหมึกที่ลงแห้งแล้ว ถ้าใจร้อนรีบลบ ไม่งั้นหมึกจะเลอะเป็นรอยหมดนะจ๊ะ)

น้ำพร้อม อุปกรณ์พร้อม!

(ดู๊ดู ขนาดภาชนะใส่น้ำยังคงความประหยัด ใช้ก้นขวดที่ใช้แล้วมาตัดซะงั้น ตอนตัดขวดก็ระวังมือกันด้วยนะจ๊ะ)

ว่าด้วยเรื่องการผสมสีและละเลงสี

อย่างแรกที่จะเริ่มเลย สำหรับเรา จะเริ่มลงส่วนที่มีสีอ่อน หรือสีสะอาดก่อน เพื่อที่ว่าจะได้ไม่ต้องล้างพู่กันมากนัก และจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำล้างบ่อย ๆ (น่ะ ใช้ความขี้เกียจเป็นตัวตั้งนั่นเอง 555)

เริ่มกันที่สีส้มของเนื้อปลาแซลมอน ใช้สีเหลือง ผสมกับสีแดงในปริมาณที่พอเหมาะ (ที่ว่าพอเหมาะ ก็วัดจากการให้ใกล้เคียงกับสีของจริงมากสุดค่ะ ถ้าเป็นสีส้มอ่อนก็ใส่เหลืองมากหน่อย ถ้าส้มเข้มสีก่ำ ๆ ก็ใส่แดงมากหน่อย)

อันนี้เป็นสีส้มกลาง สีชิ้นปลาแซลมอนนั่นเอง

อย่าลืมเว้นขาว ในส่วนที่เป็น Highlight นะคะ เพื่อความแวววาวของชิ้นปลา

ต่อมาก็เป็นปลาชิ้นที่ 2 ที่มีสีชมพูอ่อน เราใช้สีแดงนิดเดียว เจือน้ำให้สีจาง

เวลาลงสี เริ่มโดยการลงน้ำเปล่าก่อนชั้นแรก และในขณะที่กระดาษยังเปียก ให้นำสีแดงอ่อนมาแต้มลงไป วิธีนี้จะทำให้สีไล่น้ำหนักได้อย่างนุ่มนวลค่ะ

แล้วก็มาถึงปลาชิ้นที่ 3 ที่มีสีแดงเข้ม ก็ใช้วิธีการเดียวกับชิ้นเมื่อกี้ แต่ให้เพิ่มเนื้อสีแดงให้มากขึ้นกว่าเดิม ก็จะได้ชิ้นปลาสีแดงสดเข้มขึ้นมานั่นเอง

และเพื่อเพิ่มมิติให้กับปลาอันแสนน่ากิน เราจะเพิ่มน้ำหนักเงาลงไปโดยการแตะสีน้ำเงินเพียงนิ๊ดดดเดียว ผสมกับสีแดง ให้เป็นสีแดงอมม่วง ๆ แล้วแต้มลงไปตรงช่วงเงาของชิ้นปลาค่ะ

แล้วก็มาถึงปลาชิ้นสุดท้ายในชาม ส่วนของเนื้อปลา ก็ใช้สีส้มเดิมที่เคยผสมไว้ แตะสีน้ำเงินนิ๊ดดดดหน่อย เจือน้ำให้จาง ๆ เราก็จะได้สีน้ำตาลอ่อน ๆ นวล ๆ สำหรับลงเนื้อปลาซาบะดองแล้ว

และส่วนหนังปลา ใช้สีน้ำเงิน ผสมน้ำจาง ๆ แล้วแต้มลงไป ที่สำคัญอย่าลืมเว้นขาวในส่วนที่หนังปลาสะท้อนแสงสุดแวววาว

ต่อมาเป็นคิวของก้อนวาซาบิ และไช้เท้าดอง ซึ่งมีสีเขียวอ่อนทั้งคู่ เริ่มจากการผสมสีเหลืองกับสีน้ำเงิน ให้ได้สีเขียวกลาง

สำหรับวาซาบิ ก็ลงน้ำก่อนชั้นแรก แล้วตามด้วยสีเขียวกลางที่เราผสมไว้ ค่อย ๆ แต้มสีเพียงเล็กน้อยนะจ๊ะ ไม่งั้นจะเข้มเกินไป แล้วจะดูไม่เป็นวาซาบินะ


ส่วนไช้เท้าดอง ที่มีสีเขียวอมเหลือง เราก็ผสมเพิ่มสีเหลืองให้มากขึ้น แล้วก็นำมาแต้มไล่เฉดสีโดยใช้น้ำช่วยเหมือนเดิมจ้า

ตามมาติด ๆ ด้วยยำสาหร่าย สีเขียวเข้ม ให้ใช้สีเขียวกลาง เจือสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นอีกนิด แล้วแต้มเป็นเส้น ๆ ได้เล้ยยย (โดยสาหร่ายที่มีสีแดงแทรกมา ก็แต้มสีแดงสลับกันไปเนอะ) ลงสาหร่ายเสร็จปุ๊บ ก็ตามเก็บ ปูอัด และไข่หวาน ซึ่งใช้สีส้มเดิมที่ผสมไว้ และสีเหลืองอ่อนตามลำดับค่ะ

และแล้วก็มาถึงบริเวณที่มีสีเข้มที่สุด นั่นคือถ้วยข้าวสีออกเทา ๆ ดำๆ เจือน้ำตาล

เราก็ทำการผสมแม่สีทั้งสามเข้าด้วยกัน ด้วยสัดส่วนที่เท่า ๆ กัน กะเอาจากสีที่ต้องการ (ขั้นตอนนี้สำหรับผู้ที่เพิ่งฝึก ก็ลองแต้มสีในเศษกระดาษดูก่อนนะ เพื่อให้ได้สีที่ใกล้เคียงกับที่เราต้องการ)


สีเข้มอย่างสีดำเนี่ย เวลาลงเราต้องใจเย็น ๆ นะคะทุกคน เริ่มทีละนิด จากสีที่เจือน้ำจาง ๆ ถ้าต้องการความเข้มมากขึ้น ก็ค่อยเติมเนื้อสีลงทีละน้อย

ส่วนของประกอบอื่น ๆ ก็ใช้สีและวิธีการเดิมในการระบายจ้า

.
.

แล้วก็เป็นอันเสร็จ … เย่ ๆ

แล้วก็อย่าลืมใส่ข้อความเล็ก ๆ น้อย ๆ เพิ่มความน่ารัก เก๋ไก๋ ลงไปนะจ๊ะ

สุดท้าย…ท้ายสุด เราอยากชวนผู้อ่านมาวาดรูปบันทึกอาหารที่ชื่นชอบไปด้วยกันนะคะ

อ้ะ ๆ แต่ขอบอกว่าบทนี้อยากให้ลองวาดโดยใช้สีน้ำแค่ 3 สีดูนะ  แล้วเราจะรู้ว่าธรรมชาติของสีนี่มันมหัศจรรย์จริง ๆ เลยเชียว…

 

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ ไว้พบกันในบทความหน้าค่ะ

หากอ่านแล้วถูกใจชอบใจ ฝากกดแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ \( - 3-)/
NewsAri

คนหนึ่งซึ่งรักการวาดภาพ ชื่นชอบการกิน หลงใหลธรรมชาติ และเครื่องเขียน จึงมีคำกล่าวว่า “เมื่อได้วาดภาพอาหาร ต้นไม้ ใบหญ้า หรืออะไรก็ได้รอบตัว เวลานั้นจะเป็นช่วงที่รื่นรมย์ที่สุดของข้าพเจ้าเอย”