“ขณะนี้เรากำลังอยู่ในล่วงคำถามชิงตำแหน่งสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ‘ปากกาลามี่’ นะครับ และคำถามสุดท้ายนี้ก็คือ!!”

เสียงดนตรีตื่อดึบๆๆ รัวๆ ชวนให้หัวใจสั่นไปด้วยความลุ้นระทึกค่อยๆ ดังขึ้น คุณพิธีกรของรายการก็ก้มมองโพยที มองหน้าผมที มองโพยอีกที มองหน้าอีก ซ้ำ โว้ย! เมื่อไหร่จะถามสักที?!

“คำถามสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ถามว่า! ‘ปากกาลามี่รุ่นซาฟารีนั้นมีด้วยกันทั้งหมดกี่สี? สีอะไรบ้าง? และสีพิเศษลิมิเต็ดอิดิชั่นนั้นวางจำหน่ายในปีใด?”

“เหยดดดดดดดดดดดด คำถามนี้ใครมันจะไปตอบได้ฟระะะะะ” เสียงผู้ชมในห้องส่งดังอื้ออึงพลางส่ายหัวแบบไม่อยากจะเชื่อหูว่าทางรายการจะจัดคำถามที่ยากขนาดนี้มาให้

“สำหรับคำตอบนั้นทางรายการขอเฉพาะลามี่ซาฟารีที่เป็นของแท้เท่านั้นนะครับ! ไอพวกรุ่นปลอมที่ซื้อมาจาก AliExpress ด้าม 150 บาทแต่เอามาหลอกขาย 2 พันนี้ไม่ขอนับนะครับ กลัวตกนรก กร๊ากกกกก” พิธีกรแม่มกวนตีม

…แต่คนเขียนแม่มกวมตีมสุด

“ว่ายังไงครับคุณปอนด์บีบี คุณสามารถตอบคำถามนี่ได้มั้ย?” พิธีกรถามพร้อมชี้นิ้วขึ้นฟ้าประหนึ่งชี้ดาวหางฮังเล

(…นั่นมันแกง)

…ว่าแต่ผมเข้ารอบกับเข้าด้วยเหรอวะ? นึกว่าตกรอบตั้งแต่คำถามแรกที่ถามว่า ‘ลามี่ซาฟารีลิมิเต็ดอิดิชั่นของปี 2018 คือสีอะไร?’ เสียอีก กร๊าาากกก!

“หึหึ คำถามนี้อาจจะฟังดูยากนะครับ แต่สำหรับผมที่คร่ำหวอดในวงการปากกาลามี่มานาน หมดเงินไปเหยียบแสน จนหลังๆ เริ่มพ่นสีใช้เอง ถุย! มีหรือที่คำถามง่ายๆ แบบนี่ผมจะตอบไม่ได้” ปอนด์บีบีทำหน้าดูฉลาด(อย่างน้อยก็คิดว่าทำแล้วจะดูฉลาด) และหันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับกล้องสอง

“โอ้โหสมเป็นคุณปอนด์บีบีเจ้าของฉายา #พญานก #จอมดอง #สเก็ตช์เชอร์สายนอน #คนอวดของ #ฝีมือไม่ดีอุปกรณ์เทพไว้ก่อน #นักรักแห่งลุ่มแม่น้ำแคว ทุกคนปรบมือ!!” …นี่มันแอบด่ากุป่ะวะ?

“ถ้าอย่างนั้นคำตอบของคำถามข้อนี้คืออะไรครับ?! ตอบว่า ตอบว่า! ตอบว่า!!”

“ผมขอไวท์บอร์ดครับ!” ปอนด์บีบีขอตัวช่วย

“อูว อ่าห์” ทีมงานเดินถือไวท์บอร์ดมาให้พร้อมเสียงฮือฮาของผู้ชมในห้องส่งที่ต่างพากันชโงกหน้ามาดูว่าไอปอนด์มันจะเขียนอะไรลงไปบ้าง

“เอ๊ะ ผมขอไวท์บอร์ดไปนี่ครับ ทำไมเอาสมุดเล่มนี้มาให้ผม?” นุ้งปอนด์งง

“พอดีว่าไวท์บอร์ดเราแม่บ้านยืมไปจดหวยหน่ะครับเราเลยเอาสมุดเล่มนี้มาให้ใช้แทน แต่มันก็เหมือนๆ กับไวท์บอร์ดนั่นแหล่ะครับ” ทีมงานอธิบาย

“ไม่อยากจะเชื่อเลย! หรือว่าสมุดเล่มนี้มันจะเป็น จะเป็น จะเป็น!!!”

…

Nu Board [คลิกเพื่อดูของดีงาม] คือสมุดที่เล่นเอางงเลยว่าตกลงแกจะเลือกเกิดเป็นสมุดจดหรือเป็นกระดานไวท์บอร์ดกันแน่ สมุดเล่มนี้เป็นผลงานจากบริษัท Obun Printing Company ประเทศญี่ปุ่น ได้รับรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยม Good Design Award 2012 จะไม่ให้ได้รางวัลได้ยังไงล่ะ ก็เล่นเปลี่ยนแนวคิดของการใช้สมุดไปเป็นกระดาษไวท์บอร์ดทั้งเล่มเลย

หีบห่อ

ไม่เข้าใจว่าจะเขียนหัวข้อนี้ทำไมเพราะมันใส่ห่อพลาสติกธรรมดาๆ จบ

ตัวสมุด

ตัวสมุดเล่มนี้เป็นขนาด 104mm × 178mm ซึ่งจริงๆ มีหลายขนาดนะแต่ผมอยากได้เล่มพกง่ายๆ หน่อยเลยสอยขนาดนี้มา ตัวปกสีเทานั้นเป็นพลาสติกนะไม่ใช่กระดาษรับรองว่าทนมือทนเท้าแน่ๆ สมุดยึดหน้ากระดาษด้วยการเข้าสันห่วง สามารถกางวาง 180 องศาหรือจะพับไปด้านหลัง 360 องศาเขียนมือเดียวยิ่งสะดวกเลย ที่ด้านหลังสมุดจะเจาะเป็นห่วงและมีสายรัดยางยืดใช้สำหรับปิดรัดปกสมุดไม่ให้เปิดอ้าออก และที่ส่วนของปกหลังก็ยังมีห่วงพลาสติกใสอ้วนๆ ไว้สำหรับเสียบปากกาเขียนไวท์บอร์ดที่ขายมาพร้อมกันนั่นเอง

เปิดสมุดออกดูเค้าก็ตั้งใจทำดีนะ มีกระดาษรองปกสีเทาไว้สวยๆ ดูน่าใช้ พอเปิดแผ่นต่อไป เอ๊ะ เอ้ยอะไรวะ?!! มันไม่ใช่หน้ากระดาษสีขาวเหมือนสมุดทั่วๆ ไปครับแต่มันคือ “แผ่นใส” ใช่ๆ แผ่นใส่ที่เราเขียนสไลด์แล้วปิ้งบนเครื่องให้ภาพไปออกบนกระดาษหน้าชั้นเรียนนั่นแหล่ะ (สมัยนี่ยังมีมั้ย?) ผมลองเปิดๆ ดูก็นับได้ทั้วเล่มมีด้วยกัน 5 แผ่น ว่าแต่มันเอาไว้ใช้ทำอะไรกันนะ?

กรีดนิ้วเปิดหน้าถัดกลับกลายเป็นว่ากรีดหน้ากระดาษไม่ได้เพราะมันไม่งอ ทำไม?! เพราะว่าแผ่นถัดไปมันก็ไม่ใช่หน้ากระดาษสมุดครับแต่มันคือ “กระดาษแข็งผิวลื่นสีขาว” ใช่แล้วมันแข็งและลื่นเหมือนกระดานไวท์บอร์ดไม่มีผิดเพี้ยน ไอหน้าขาวๆ นี้แหล่ะที่เป็นหัวใจสำคัญที่เราจะใช้เขียนครับ อันนี้นับแล้วมีด้วยกัน 4 แผ่นรวมเป็น 8 หน้านะเพราะเขียนได้ทั้งหน้าและหลังเลย

ปากกาเขียนไวท์บอร์ด

ปากกาที่เหน็บมาให้ข้างๆ สมุดหน้าตาตลกดีเพราะตัวปลอกมีก้อนสักหลาดแปะมาด้วย ปากกาด้ามนี้เป็นปากกาสำหรับเขียนไวท์บอร์ดครับ เป็นของนี่ห้อ Pilot Wyteboard Marker หัวขนาด S เล็กกำลังพอดี หมึกสีดำตามมาตรฐาน ตรงส่วนปลอกนั้นใช้สำหรับลบหมึกเหมือนแปรงลบกระดานไม่มีผิดเพี้ยน

ผมอ่านฉลากด้านข้างที่เป็นภาษาญี่ปุ่นดู …ดูรูปเหอะอย่าใช้คำว่าอ่านเลย ก็เห็นว่าปากกาด้ามนี่สามารถหมุนที่ก้นปากกาเพื่อเปลี่ยน refill ได้ ผมคิดว่าถ้าอยู่ญี่ปุ่นคงสามารถหาซื้อ refill ได้ง่ายๆ แต่นี่ไทยแลนด์ ถ้าหมึกหมดก็ซื้อปากกาเขียนแผ่นใสแบบลบออกได้มาใช้แทนเถอะนะ

ลองเขียน!

แค่เปิดเล่นก็รู้เลยว่าต้องสนุกแน่ๆ ผมเลยเปิดปลอกปากกาเขียนเลยครับ ผมตั้งใจว่าจะเขียนโครงสร้างเซิร์ฟเวอร์ของเว็บไซต์บีบีบล็อกแห่งนี้ให้ล่มยากๆ รองรับคนเข้าได้มากกว่านี้ เปิดหน้ากระดาษแข็งสีขาวแล้วลงมือเขียนทันที แต่พอแค่เขียนคำแรกก็เขียนผิดเสียแล้ว อุ๊ปส์! (ดูตอแหลมากกกก)

จาก Server กลายเป็น Sewer นี่ฝักใฝ่ท่อระบายน้ำหรือยังไง? เลยเอาปลอกปากกามาถูๆ ลบๆ ดูก็ลบได้ง่ายดายมากๆ ความรู้สึกไม่ผิดเพี้ยนจากการใช้แปรงลบกระดานไวท์บอร์ดของจริงเลย

เขียนๆ ลบๆ จนเสร็จเรียบร้อยก็เป็นดังที่เห็นครับ ทีนี้จำแผ่นใสที่ผมพูดถึงในตอนต้นได้มั้ย? มันใช้เป็นหน้าเสริมสำหรับกรณีที่เราอยากเขียนโน้ตหรือรายละเอียดเพิ่มเติมจากหน้ากระดาษสีขาว เราก็สามารถเขียนลงบนแผ่นใสได้เลย ให้ความรู้สึกเป็นชั้นๆ layer ของโปรแกรมโฟโต้ช็อปเปี๊ยบ (จริงๆ สมัยก่อนที่จะมีคอมพิวเตอร์เค้าก็ทำกราฟฟิคเป็นเลเยอร์แบบนี้แหล่ะนะ หนูๆ เกิดทันกันมั้ย???)

ผมเขียนรายละเอียดการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ในกรณีที่เซิร์ฟเวอร์ล่มลงบนแผ่นใสนี้ครับ หน้ากระดาษขาวเป็นเนื้อหาหลัก แต่พอวางแผ่นใส่ลงไปปั๊บจะเป็นเนื้อหาเสริม เหมาะมากๆๆๆๆ สำหรับการทำพรีเซนเทชั่นแบบเร่งด่วนให้เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานดูได้ทันที บิลเลี่ยน!

*ทีแรกไม่รู้จะเขียนอะไร เลยกะวาดรูปการ์ตูนผู้หญิงลงไป แผ่นใสอ่ะวาดเป็นเสื้อผ้า พอเปิดแผ่นใสออกก็จะเห็นตัวการ์ตูนยืนโป๊อยู่ที่ด้านกระดาษขาว -.,-

ซื้อที่ไหนราคาเท่าไหร่

สมุดเล่มนี้ผมซื้อดองมาเป็นปีล่ะครับจากเว็บร้านเครื่องเขียนของประเทศญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี pencils.jp ราคาขายอยู่ที่ 1450¥ เป็นเงินไทยก็ 430 บาท แต่ค่าส่งนี่ผมจำไม่ค่อยได้แต่น่าจะราวๆ 500 บาท เพราะว่าผมสั่งพวกหมึกไปด้วยเลยหนักหน่อย และเป็นการจัดส่งแบบ EMS ปลอดภัยมีเลขติดตาม รอไม่กี่วันก็ถึงมือแล้วอ่ะไวเว่อร์ๆๆๆๆ

ความคิดเห็นจากว่าที่สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ปากกาลามี่(ฝันได้แค่ในบล็อกนี้แหล่ะ)

เห้ยผมโคตรชอบเลยนะสมุดเล่มนี้พูดเลย คือมันมีหลายๆ ครั้งที่ผมเข้าไปนั่งคุยงานในห้องประชุมแล้วมีการเขียนพวกดีไซน์หน้าตาโปรแกรมหรือเขียนรายละเอียดงานที่ต้องแก้ไปแก้มารัวๆ จะใช้ดินสอกับยางลบก็ลบได้ช้าเหลือเกิน หรือบางครั้งก็เป็นการประชุมแบบ brainstrom ถ้าเป็นทุกทีก็จะเขียนแล้วขีดฆ่าดูเลอะเทอะไม่สวยงามเลย แต่พอเป็นสมุดเล่มนี้ Nu Board ที่ทำหน้าที่ได้เหมือนกระดานไวท์บอร์ดขนาดย่อม เราสามารถเขียนและลบได้ไม่จำกัด แถมยังหันให้คนอื่นเขียนเพิ่มรายละเอียดลงบนแผ่นใส่ที่อยู่ด้านบนเพื่ออธิบายนู่นนี่เพิ่มได้อีกด้วย

ถ้าจะให้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกนะ ผมกะจะไปซื้อปากกาเขียนแผ่นใสแบบลบออกได้ที่เป็นสีๆ มาเพิ่มเติมด้วย เพื่อจะได้จดโน้ตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อะไรเพิ่มก็ใช้สีเขียว อะไรเน้นมากๆ ก็สีแดง แค่คิดก็รู้ได้เลยว่าการคุยงานครั้งหน้าจะสะดวกมากกว่าเดิมแน่ๆ

ผมแนะนำสมุดไวท์บอร์ด Nu Board เล่มนี้เลยนะสำหรับใครก็ตามที่มีการใช้งานเช่นเดียวกันกับที่ผมพูดไป เหมาะมากกับการจดอะไรก็ตามที่ต้องลบต้องแก้บ่อยๆ สุดยอดสมุดที่นำเอาจุดเด่นของกระดานไวท์บอร์ดมาย่อลงให้อยู่ในรูปแบบของสมุดขนาดเท่าฝ่ามือที่แสนพกพาง่าย แถมยังมีจำนวนหน้ากระดาษและแผ่นใสเพียงพอกับการใช้งานในแต่ละครั้ง น่าสนใจขนาดนี้ หวังว่าเข้าประชุมครั้งหน้าคุณผู้อ่านจะมีสมุดเล่มนี้เตรียมพร้อมไว้ในมือแล้วนะครับ 🙂

…

..

.

“เอาละครับคุณผู้ชมทั้งที่อยู่ในห้องส่งและที่อยู่ทางบ้าน ขณะนี้คุณปอนด์บีบีได้วางสมุดไวท์บอร์ด Nu Board ลงเป็นที่เรียบร้อย เรามาฟังกันครับว่าคำตอบของคุณปอนด์จะเป็นคำตอบที่ถูกต้องมั้ย”

ปอนด์บีบีก้มหน้าหลับตาแต่มองเห็นได้ถึงรอยยิ้มแห่งชัยชนะที่มุมปาก

“คุณปอนด์ครับ!! และคำตอบสุดท้ายของคุณปอนด์นั้นก็คือ? คำตอบคือ?! คือ?!! คือ!!!!!”

“แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ! สวัสดีคร้าบบบบ!!”